เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2568ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ปราจีนบุรีได้รับแจ้งกลุ่มปราจีนบุรีเข้มแข็งมีการจัดกิจกรรมแรลลี่ต้านไม่เอาEEC เคลื่อนขบวนต่อต้านไปหลายพื้นที่ อาทิ ที่สวนเฉลิมราชหนองปลาแขยงเทศบาลตำบลเมืองเก่า อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี พบกลุ่มคนปราจีนเข้มแข็งจัดกิจกรรมแรลลี่รวมพลังคนปราจีนไม่เอาEEC โดยมีการตั้งขบวนรถยนต์ของกลุ่มสมาชิกร่วม20คันติดป้ายต่อต้านEECมีตำรวจจราจรสภ.กบินทร์บุรี คอยอำนวยความสะดวกขบวนแรลลี่ซึ่งวิ่งบนถนนสาย 33 สุวรรณศรสายเก่ามุ่งหน้าถนนสาย 304นายสุเมธ เหรียญพงษ์นาม ตัวแทนกลุ่มคนปราจีนเข้มแข็งกล่าวว่าเป็นการร่วมแรงร่วมใจแรลลี่ในการต่อต้านการนำ จ.ปราจีนบุรีเข้าสู่การเป็นจังหวัด EEC แห่งที่ 4 ต่อจากพื้นที่เดิม 3 จังหวัดภาคตะวันออก คือ จ.ฉะเชิงเทรา จ.ชลบุรี และ จ.ระยอง  โดยขบวนแรลลี่ จากหนองปากแขยงจะไปสามทหารผ่านถนนสาย 304 คลองรั้ง ไปสักการะอนุสาวรย์พระหัตถ์รัชกาลที่ 5 ที่ทรงจารึก “จปร. รศ.127”ไว้บนแท่นศิลาแลง
สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองเราขอพรท่านให้ปกปักรักษาผืนแผ่นดินปราจีน  จากนั้นไป อ.ประจันตคามสักการะอนุสาวรย์ท้าวภักดีเดชะ อดีตเจ้าเมืองประจันตคามคนแรก ผู้นำกองทัพไปรบในประเทศกัมพูชาในอดีต   ไปศาลหลักเมืองแล้วไปสิ้นสุดที่ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช  ก่อสร้างเป็นอนุสรณ์เมื่อคราวยกกองทัพไปปราบพระยาละแวกแห่งกัมพูชาตรงข้ามกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล ร 2 รอ.) หรือ หน่วยบูรพาพยัคฆ์ก็ไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เช่นเดียวกัน ขอให้ท่านปกปักรักษาบ้านเมืองเราวันนี้เป็นการแรลลี่พวกเราจะเคลื่อนขบวนแสดงสัญลักษณ์ว่าเราไม่ต้องการEEC  เหมือนที่ป้ายบอกเราต้องการพัฒนาจากการมีส่วนร่วม ไม่ใช่ว่าจากใครคนใดคนหนึ่ง หรือกลุ่มทุนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งคิดว่าEEC ดีต่อปราจีนแล้วก็จะเอาเข้ามาเลยโดยที่ไม่ได้ฟังเสียงของประชาชนเลย    วันนี้เราจึงไปแสดงให้คนปราจีนได้เห็นว่าการพัฒนาอย่างมีส่วนร่วมให้เราได้ออกสิทธิ์ออกเสียง เราได้รับรู้รับทราบว่าปราจีนเราพัฒนาแล้วจะทำอย่างไรบ้าง  นายสุเมธกล่าวผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า   ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ระหว่างเดือน ก.ค.- ก.ย.68  ได้มีการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็น ต่อร่างรายงานผลการศึกษาโครงการจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายการขยายพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ทั้งกลุ่มย่อยหรือ Focus Group และ เวทีรวม  มีคณะร่วมจัดงานคือ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษ
ภาคตะวันออก  สถาบันวิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และจังหวัดปราจีนบุรี จะมีการรายงานสรุปผล และมีแผนจะเสนอรายงานผลการศึกษาและข้อเสนอแนะฯ ต่อ กพอ.หรือ กรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เพื่อพิจารณา ก่อนเสนอต่อ ครม.ต่อไปที่ผ่านมาทางกลุ่มปราจีนบุรีเข้มแข็งได้เคลื่อนไหวจัดเวทีคัดค้านไม่เอา EEC   คัดค้านทำหนังสือร้องเรียนแถลงการณืถึงนายอำเภอ ผู้ว่าราชการจังหวัด สำนักงานEEC มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะกรรมาธิการการมีส่วนร่วมฯทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา เพื่อให้ความเห็น ถึงเหตุผลที่ยังไม่ควรขยายพื้นที่ EEC มายังจังหวัดปราจีนบุรีโดยต่อเนื่องผู้สื่อข่าวรายงานต่อไป  นอกเหนือจากมีกลุ่มคัดค้านไม่เอา EECแล้ว  ก่อนหน้าที่ผ่านมา  มีกลุ่มชาวปราจีนบุรี ต้องการ EEC มีแกนนำประกอบด้วยกำนัน – ผู้ใหญ่บ้าน ,หอการค้า จ.ปราจีนบุรี และ ประชาชนพร้อมป้ายผ้าข้อความ ชาวปราจีนฯต้องการEEC ได้มาปราศรัยสนับสนุนการนำพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีเข้าเป็นส่วนหนึ่งในเขตพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ที่บริเวณศาลกลาง จ.ปราจีนบุรี.... กลุ่มชาวปราจีนบุรี ต้องการ EEC กล่าวถึงการนำพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีเข้าเป็นส่วนหนึ่งในเขตพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC นั้น จะทำให้เกิดการลงทุนในพื้นที่ ทำให้เกิดการจ้างงาน สร้างรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตคนในพื้นที่ …โดยได้เข้ายื่นหนังสือข้อเรียกร้องต่อ นายวีระพันธ์ ดีอ่อน ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เพื่อส่งต่อให้กับรัฐบาล-นายกรัฐมนตรีในการพิจารณานำพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีเข้าเป็นส่วนหนึ่งในเขตพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก EEC จังหวัดที่ 4 ต่อจาก 3 จังหวัดเดิม คือ ฉะเชิงเทรา,ชลบุรี และ ระยอง

มานิตย์ สนับบุญ 081-5583238-ข่าว / ทองสุข สิงห์พิมพ์  – ภาพ /ผู้สื่อข่าวนิวส์24สถานีประชาชนประจำจังหวัดปราจีนบุรี

แสดงความคิดเห็น