ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2567 ที่ผ่านมากรมราชทัณฑ์ได้จัดทำบันทึกข้อตกลง ความร่วมมือว่าด้วยการส่งเสริมสนับสนุนด้านการกีฬาแก่ผู้ต้องขังในเรือนจำและทัณฑสถาน กับ การกีฬาแห่ง
ประเทศไทย ได้กำหนดแนวทางส่งเสริมผู้ต้องขังเพิ่มศักยภาพด้านกีฬาร่วมกันพัฒนาองค์ความรู้ วิชาการที่เป็น ประโยชน์ต่อการบริหารองค์กรกับคณะผู้บริหารทั้งสองหน่วยงานที่เหมาะสมกับบริบทของเรือนจำและทัณฑสถาน กรมราชทัณฑ์ได้กำหนดให้ทัณฑสถานวัยหนุ่มกลางแห่งนี้เป็นเรือนจำเฉพาะทางด้านกีฬาประจำเขต 10
ซึ่งเรือนจำเฉพาะทางด้านกีฬา หมายถึง การพัฒนาพฤตินิสัยรูปแบบหนึ่งสำหรับผู้ต้องขังกลุ่มเป้าหมายที่มี คุณสมบัติเฉพาะ โดยการนำกีฬาที่มีความเหมาะสมและหลากหลายมาเป็นแนวทางเลือกให้กับผู้ต้องขังเพื่อค้นหาศักยภาพพัฒนาตนเอง ให้นำความรู้และทักษะความชำนาญ เทคนิคด้านกีฬาที่ได้ฝึกฝนอบรม สร้างเป็นอาชีพด้านกีฬาให้กับตนเองได้ทัณฑสถานวัยหนุ่มกลาง ได้มีการเรียนการสอนกีฬามวยไทยและมวยสากล
ฟุตซอล เปตอง กีฬาสแต็ค (เรียงแก้ว) และคีตะมวยไทย นาฎมวยไทย ให้กับผู้ต้องขังที่สนใจในด้านกีฬา เพื่อเป็น ทางเลือกในการใช้กีฬาสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปประกอบอาชีพภายหลังพ้นโทษได้อีกทั้ง ยังดำเนินการตาม ยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติในการสนับสนุน และส่งเสริมด้านการกีฬาให้กับผู้ต้องขัง ซึ่งสอดคล้องกับ นโยบายการบริหารงานราชทัณฑ์“๘ มิติยกระดับการเปลี่ยนแปลง” โดยมีเป้าหมายในการสร้างโอกาสด้านอาชีพ ที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน ตลอดจนส่งเสริมผู้ต้องขังที่ผ่านการฝึกอบรมวิชาชีพ ได้พัฒนา
ตนเอง และแสดงศักยภาพ จากทักษะความชำนาญ
สร้างสรรค์ผลงานมีคุณภาพออกแสดงให้สังคมภายนอกได้รับรู้ และยอมรับในการกลับคืนสู่สังคม เป็นการเตรียมความพร้อมก่อนปล่อยอย่างยั่งยืน โดยไม่หวนกลับมากระทำผิด ซ้ำอีก ภายใต้สโลแกนที่ว่า “ราชทัณฑ์แก้ไข คนไทยให้โอกาส”
ในการนี้ นายสหการณ์เพ็ชรนรินทร์อธิบดีกรมราชทัณฑ์และดร.ก้องศักด ยอดมณีผู้ว่าการ
การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมทัณฑสถานวัยหนุมกลาง เพื่อติดตามความคืบหน้า การดำเนินงานด้านกีฬาของทัณฑสถานวัยหนุมกลาง ซึ่งเป็นเรือนจำต้นแบบเฉพาะทางด้านกีฬา โดยในวันนี้
ทัณฑสถานสถานวัยหนุ่มกลาง ได้จัดกิจกรรม เพื่อนำศักยภาพของผู้ต้องขังในด้านต่างๆ ออกมาแสดง ซึ่งได้แก่ การแสดงความสามารถและทักษะกีฬามวยไทยอาชีพ ทักษะด้านดนตรี และกีฬาสแต็ค (Stack) พร้อมทั้งเยี่ยม ชมนิทรรศการความสามารถในด้านกีฬา และนันทนาการในนามชมรม TO BE NUMBER ONE ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามแผนงานการพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขัง ส่งเสริมสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง
ฝึกวิชาชีพให้มีทักษะทางด้านกีฬา เป็นส่งเสริมความมีระเบียบวินัยให้ผู้ต้องขังได้ฝึกปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นพื้นฐานที่จะปรับตัวกลับเข้าสู่สังคม ตรงตามภารกิจของกรมราชทัณฑ์ในการมุ่งมั่นคืนคนดี มีคุณค่า
สู่สังคม
แสดงความคิดเห็น