พปชร.จี้ นายกฯ ต้องตอบ คลิปเสียงที่ฮุนเซนปล่อยออกมา เป็นคลิปจริงหรือไม่ ถ้าไม่จริง ต้องแจ้งความจับ“ฮุนเซน”

 วันนี้ (18 มิ.ย. 2568) พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ  กล่าวว่า “ กรณีมีคลิปเสียงความยาวประมาณ 17 นาที  ที่นายฮุนเซน เอามาเผยแพร่นั้น  น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี  ต้องรีบตอบประชาชนและสังคมโดยเร็ว   เพราะเป็นเรื่องสำคัญและเป็นศักดิ์ศรีของประเทศ    หากคลิปดังกล่าว  เป็นของปลอมท่านนายกฯ จะต้องรีบแจ้งความดำเนินคดีกับนายฮุนเซนฯ ในทันทีเพราะเป็นการกระทำผิดที่มีผลกระทบต่อประเทศไทย  กระทบต่อเกียรติยศและศักดิ์ศรีของประเทศไทย

       แม้ว่า  การกระทำผิดดังกล่าวจะเป็นการกระทำผิดนอกราชอาณาจักรก็ตาม  การกระทำผิดเกี่ยวกับความมั่นคงของรัฐทั้งภายในและภายนอกราชอาณาจักร เป็นความผิดที่ร้ายแรงตามประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งมุ่งคุ้มครองความมั่นคงของประเทศและผลประโยชน์ของชาติ  เป็นการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา  มาตรา 119-129 ซึ่งกฎหมายระบุไว้ชัดเจนว่าการกระทำผิดดังกล่าว  แม้จะเป็นการตระเตรียม  หรือพยายามก็ให้ถือว่า ได้กระทำผิดตามมาตรานั้นๆแล้ว (ตาม มาตรา 128) หากนายฮุนเซนฯ เอาข้อความเป็นเท็จมาเผยแพร่เช่นนี้  จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายไทยอย่างแน่นอน

       แต่ในทางกลับกัน  หากคลิปเสียงนั้นเป็นของจริง  ก็เป็นที่น่าเสียใจสำหรับประเทศไทย  ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็น“หลาน” นายฮุนเซนฯ คนกัมพูชา  และขณะเดียวกัน นายกฯ มองว่า  แม่ทัพภาค 2 ซึ่งเป็นนายทหารระดับสูง  ได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งสำคัญ  แต่นายกกลับมองว่าเป็น “ศัตรู” เป็น “ ฝ่ายตรงข้าม”  

      กรณีนี้  ทางพรรคพลังประชารัฐ  ได้มีความสงสัย  และได้มีการแจ้งให้ทางท่านนายกฯ และรัฐบาลดำเนินการเพื่อรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยและศักดิ์ศรีของประเทศ  นับตั้งแต่มีนายทหารชั้นนายพล ของประเทศกัมพูชาแต่งเครื่องแบบเรียบร้อยพร้อมด้วยครอบครัวในชุดประจำชาติ ขึ้นมาร้องเพลงชาติกัมพูชาที่บนปราสาทตาเมือนธม และได้มีการบันทึกภาพนิ่งและวิดีโอไว้  ซึ่งทางพรรค พปชร. ได้เคยเรียกร้องให้รัฐบาลไทย  กระทรวงการต่างประเทศ ดำเนินการประท้วงเป็นลายลักษณ์อักษร  เพื่อเป็นหลักฐานใน กรณีที่หากมีการ ฟ้องร้องดำเนินคดีขึ้น  แต่ปรากฏว่ารัฐบาลไทย กลับเพิกเฉย  ไม่ได้มีการใดๆ  นอกจากนี้  กรณีกรณีที่ประเทศกัมพูชาฝ่าฝืนข้อตกลงในหลายๆประการ รวมทั้งการรุกล้ำดินแดนประเทศไทยและถูกทหารไทยผลักดันออกไป  แต่รัฐบาลกลับนิ่งเฉย  และเอื้อประโยชน์กับประเทศกัมพูชาในกรณีการขัดขวางการดำเนินการทางยุทธการและการปิดด่านของทหาร กองทัพภาคที่ 2 

        พอฟังคลิปแล้ว  ไม่แปลกใจเลย ว่าที่มีข่าวลือ ว่าจะย้ายแม่ทัพภาค 2 แต่ย้ายไม่ได้  เลยปัญหาเรื่องการขัดแย้งระหว่างรัฐบาลกับทหารในพื้นที่ โดยเฉพาะเรื่องการปิดด่าน  การห้ามขายน้ำมัน  การตัดไฟและอินเทอร์เน็ต ถูก ระงับขัดขวางโดยรัฐบาลทั้งนั้น  ทั้งๆ ที่ เป็นยุทธวิธีที่จะก่อให้เกิดความได้เปรียบแก่ทหารไทย

      คำพูดที่เสียดแทงหัวใจของคนไทยทุกคน ที่ท่านนายกฯพูดกับนายฮุนเซนฯว่า “จริงๆแล้วท่านอยากจะได้อะไรบอกมาได้เลยเดี๋ยวจะจัดการให้”  ในขณะที่ทหารทุกคนยอมสละชีวิต  เสียสละความสุขส่วนตัวไปรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยและพื้นแผ่นดินไทย  แต่ท่านนายกฯ กลับยอมตามกัมพูชาทุกเรื่อง  ไม่น่าแปลกใจเลย  ว่าทำไมเขาพระวิหารจึงเสียให้แก่กัมพูชา  เมื่อปี พ.ศ.2556   ผมเชื่อมั่นว่า  พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนรักและหวงแหนพื้นแผ่นดินไทย  ไม่ยอมให้ประเทศใดมาเอาผืนแผ่นดินไทยไปแม้แต่ตารางนิ้วเดียว  และจะยอมให้คนหนึ่งคนใดเอาพื้นแผ่นดินไทยไปแลกกับเส้นทางหลบหนี ให้เครือญาติตัวเอง หรือตัวเองโดยเด็ดขาด