หลังจากการประชุมพล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ1 มอบหมายให้พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช ภ1. แถลงความคืบหน้า โดยพล.ต.ต.โชคชัยได้กล่าวว่า"โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสืบสวนลงไปในรายละเอียด เนื่องจากเป็นเรื่องเกี่ยวกับธุรกรรมทางการเงินที่จะต้องทำการตรวจสอบ และเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2563 จึงจะต้องใช้เวลาในการสืบค้นหาพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อหาต้นทางเงินเข้าบัญชี โดยในช่วงบ่ายของวันนี้จะส่งพนักงานสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรีเข้าไปสอบสวนในประเด็นต่างๆ ที่ได้ตั้งประเด็นไว้กับธนาคาร
ทั้งนี้จะต้องรอข้อมูลการตรวจสอบจากธนาคารก่อนว่าเงินเข้าบัญชีอย่างไร และมาเป็นจำนวน 12,000,000 บาทได้อย่างไร ซึ่งทางธนาคารจะเป็นผู้ให้คำตอบได้ดีที่สุด ส่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งปปท. และป.ป.ช. จะตรวจสอบในเรื่องที่ นายทวีวัฒน์ เส้งแก้ว ที่อ้างตัวเป็นเจ้าของเงิน เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ จะเข้าข่ายกฎหมายใดเกี่ยวกับการยื่นบัญชีทรัพย์สิน หรือไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน ซึ่งจะต้องทำการตรวจสอบเส้นทางการเงินให้ชัดเจนก่อน จึงขอระยะเวลาทำการสอบสวน เพื่อให้ชัดเจนและได้ความจริงก่อน อย่างไรก็ตามทีมสอบสวนได้ประสานไปยังธนาคาร ว่าจะมีการสอบถามในประเด็นใดบ้าง แต่เนื่องด้วยเป็นเรื่องของธุรกรรมทางการเงินที่เกิดขึ้นเมื่อ 5 ปีที่แล้ว จึงจำเป็นจะต้องตรวจสอบเอกสารที่เกี่ยวข้องว่ามีมากน้อยเพียงใดและอยู่ในส่วนใดบ้าง ซึ่งวันนี้ทางพนักงานสอบสวนได้ไปสอบปากคำแล้วจะได้เอกสารครบถ้วนมากน้อยเพียงใดจะต้องรอฟังผลอีกครั้ง
ส่วน นายทวีวัฒน์ เส้งแก้ว หากมีประเด็นไหนที่อยากจะทราบข้อมูลเพิ่มเติมก็จะทำหนังสือแจ้งเพื่อให้เข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติม ทั้งนี้ทางพนักงานสอบสวนได้ทำการออกหมายเรียกบริษัทที่เกี่ยวข้องทั้ง 4 บริษัท เพื่อเชิญมาเป็นพยานโดยได้นัดหมายให้เข้าให้ข้อมูลในวันที่ 20 มิถุนายนนี้ อย่างไรก็ตามคดีนี้อยู่ในความสนใจของประชาชนทางตำรวจภูธรภาค 1 พยายามเร่งรัดดำเนินการตรวจสอบให้รวดเร็วที่สุด"
แสดงความคิดเห็น