ทั้งนี้สืบเนื่องจากในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยามีคดีที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มวัยรุ่นที่มีพฤติกรรมอันธพาล ก่อเหตุอย่างอุกอาจในหลายคดีโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย และเป็นภัยต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน
โดยคดีล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 พ.ค.68 เวลาประมาณ 23.30 น.
กลุ่มวัยรุ่นจำนวน 14 คน ได้เข้าไปในสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภออุทัย
โดยขึ้นไปบนเวทีและประกาศให้ทางร้านปิดบริการ พร้อมสั่งให้ลูกค้าออกจากร้านทั้งหมด
จากนั้นได้ร่วมกันทำร้ายนักท่องเที่ยวรวม 3 รายจนได้รับบาดเจ็บก่อนจะหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุ ทั้งที่มีพยานจำนวนมากอยู่ในร้านในขณะเกิดเหตุ
ต่อมาในวันที่19 พ.ค.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้ง 14 คนได้ครบถ้วนโดยในเบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาในความผิดฐาน “ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น”
จากการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมได้พิจารณาให้มีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีก 6 ข้อหา ได้แก่
1. พกพาและครอบครองอาวุธปืนโดยผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน2. ข่มขู่ให้ผู้อื่นตกใจกลัว 3. พยายามชิงทรัพย์โดยมีอาวุธปืนในเวลากลางคืน 4. ข่มขืนใจผู้อื่น
5. ร่วมกันบุกรุกในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธ ตาม 6. ร่วมกันข่มเหง คุกคาม หรือก่อความเดือดร้อนรำคาญ
ในส่วนของการปฏิบัติการตรวจค้นในช่วงเช้าวันนี้พบว่า 1 ในผู้ต้องหายังพักอาศัยอยู่ในบ้านส่วนอีก 13 รายได้หลบหนีออกจากที่พักก่อนหน้านี้โดยไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายในจุดตรวจค้นหลัก
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ขยายผลตรวจค้นบ้านพักของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ก่อเหตุและตรวจพบของกลาง ได้แก่:
1. อาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก, เครื่องกระสุนปืน ขนาด .38 จำนวน 5 นัด จึงได้ควบคุมตัวผู้ครอบครองอาวุธมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ท.สุรพล ผบช.ภ1 กล่าวว่า" ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้มงวดควบคุมการเปิด-ปิดสถานบริการในพื้นที่ให้เป็นไปตามกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนด และให้เร่งดำเนินมาตรการจัดการกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ว่าได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจังในทุกมิติจะไม่ยอมให้กลุ่มอันธพาล หรือผู้มีพฤติการณ์เป็นนักเลงหัวไม้สร้างความเดือดร้อนหรือเป็นภัยต่อสังคมอีกต่อไปโดยจะดำเนินการปราบปรามและดำเนินคดีในทุกข้อหาที่เกี่ยวข้อง รวมถึงขยายผลไปยังผู้สนับสนุนหรือผู้อยู่เบื้องหลังด้วย"
นอกจากนี้พล.ต.ต.นฤนาท พุทไธสง ผบก.ภ.จพระนครศรีอยุธยา ได้พิจารณาออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มบุคคลดังกล่าวมาปฏิบัติหน้าที่ที่ ศปก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เป็นการชั่วคราว โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม
แสดงความคิดเห็น