นายสุขสันต์ วันสว่าง นักร้องลูกทุ่งชื่อดังกล่าวว่าวันที่ 10 มกราคม 2568 ที่ผ่านมาเวลา 23.30 น.ในขณะที่ตนจอดรถรับประทานอาหารที่ร้าน ไก่ย่างพระราม 5 หลังไปเปิดแสดงตามคนจ้างร่วมกับสุรชาติ สมบัติเจริญขณะที่ตนและเพื่อนนั่งกินข้าวอยู่ในร้านได้ยินเสียงรถชนดังสนั่นตนจึงได้เดินมาดูที่รถซึ่งรถปาเจโร่ของตนที่จอดอยู่ถูกถูกรถะกระบะมิชชูมิชิไทยตั้น2 ประตูสีดำทะเบียน 1ฒธ4138 กรุงเทพมหานคร ชนเข้าที่ท้ายรถฝั่งขวาของตนพักเสียหายซึ่งรถของตนไหลไปชนรถที่จอดด้านหน้าและชนกระแทกกันไปอีกรวม 5 คันรวด แต่รถของตนเสียหายมากที่สุด อู่ประเมินค่าซ่อม 350,000 บาท ซึ่งประกันรถของตนขาดพอดีด้วย ตอนนี้ตนเอารถญาติมาใช้ก่อน
สุขสันต์ เปิดเผยว่า ในวันที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอร์ หลังเวลาผ่านไปร่วม 3 ชม.ปริมาณแอลกอฮอร์อยู่ที่ 177 ซึ่งเกินไปมาก และถ้าวัดเลยทันที ปริมาณน่าจะถึง 200 ตำรวจก็ไม่ยอมให้ผู้ก่อเหตุเป่าในที่เกิดเหตุ อ้างไปคุยกันที่โรงพักอย่างเดียว
สุขสันต์ กล่าวอีกว่าคดีเมาแล้วขับ ผู้ก่อเหตุรับสารภาพในชั้นพนักงานสอบสวน โดยปรับ 9000 บาท แต่รับสารภาพลดให้ครึ่งหนึ่ง เหลือ 4500 บาท ส่วนในทางแพ่งนั้นผู้เสียหายรับสารภาพ และจะชดใช้ค่าเสียหายให้ใน 30 วัน
“ผู้ก่อเหตุบอกว่าจะชดใช้ให้ใน 30 วัน แต่ไม่เคยติดต่อกลับมา อะไหล่รถบอกว่าจะซื้อมาให้ก็ไม่เคยเห็นซื้อสักชิ้น โทรไปก็บอกไม่มีตังค์อย่างเดียว”
สุขสันต์บอกว่าวันที่ 27 มกราคม ตัดสินใจเดินทางไปพบผู้กำกับ สภ.เมือง นนทบุรี พื้นที่เกิดเหตุ ตอนแรกก็ถูกกีดกันไม่ให้เข้าพบ แต่เมื่อเห็นว่ามีนักข่าวอยู่ด้วย จึงยินยอมให้เข้าพบ
“ผกก.โทรหาร้อยเวรถามว่าคดีไปถึงไหน ร้อยเวรบอกว่ายังไม่ส่งฟ้อง แต่อีก 2-3 วันจะส่งสำนวนฟ้องไปยังอัยการ และผู้กำกับรับปากด้วยว่าจะตั้งกรรมการสอบสวนร้อยเวร เนื่องจากระหว่างลงบันทึกการแจ้งความ มีความพยายามดึงเรื่อง“
สุขสันต์ เปิดเผยอีกว่า วันที่ 29 มกราคม พนักงานสอบสวนจึงส่งสำนวนฟ้องไปยังอัยการ โดยไม่ได้แจ้งให้ผู้เสียหายได้รับทราบ ทั้งๆที่ตั้งใจว่าจะขอเป็นโจทก์ร่วม และเป็นการฟ้องด้วยวาจา ข้อหาเมาแล้วขับ ทำให้เสียทรัพย์ แต่ไม่ได้แจ้งยอดความเสียหาย ใบบันทึกประจะวันที่ผู้ก่อเหตุรับสารภาพและยินยอมชดใช้ก็ไม่ส่งให้อัยการ
”วันที่ 3-4 เมษายน ผมจะไปยื่นเรื่องต่อปปช.นนทบุรี เพื่อเอาผิดพนักงานสอบสวน ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตาม ม.157“
”ตนสงสัยว่า ร้อยเวรปล่อยตัวผู้ก่อเหตุกลับไปในคืนนั้นได้อย่างไร คนขับเมาหนักจนยืนแทบไม่ได้ โดยร้อยเวรอ้างว่า จ่ายค่าปรับแล้ว กลับบ้านได้ ซึ่งเวลาผ่านไปเกือบ 3 เดือนทางคู่กรณียังไม่มีมาชดใข้ค่าเสียหาย ตนได้หาเงินทยอยให้ทางอู่ซ่อมรถชื้ออะไหล่รถซ่อมไปเลื่อยหมดไปแล้วนับแสนบาท ล่าสุดดมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมาคู่กรณีของตนโอนเงินเข้ามาให้ตนเป็นจำนวนเงิน 20,000 บาทตนโทรคุยถึงค่าใช้จ่ายที่ทางอู่ซ่อมรถประเมินค่าซ่อมมาเป็นจำนวนเงิน 350,000บาทซึ่งทางคู่กรณีบอกกับตนว่าถ้า 100,000 บาทพอผ่อนจ่ายให้ได้เดือนละ 20,000 บาทถ้า 350,000 บาท คงไม่ใหวไม่มีให้ยอมให้ฟ้อง
ซึ่งตนก็อยากบอกกับน้องคู่กรณีของตนว่าทุกวันนี้ตนก็ลำบากต้องเช่ารถมาใช้เงินที่หามาได้ก็เอามาซ่อมรถไหนจะผ่อนรายเดือนรถปาเจโร่อีกเดือนละ 15228 บาท ซึ่งตนไม่ได้ผ่อนมาแล้ว 3 เดือนจะเข้าเดือนที่ 4 แล้วตนก็จะโดนทางไฟแนนซ์อีก
แสดงความคิดเห็น