เมื่อเวลา 10:00 น.วันที่ 21 ต.ค. 67 ที่บริเวณสุสานมูลนิธิลพบุรีสามัคคีสงเคราะห์อยู่ติดกับวัดนิคมสามัคคีชัย หรือ วัดบ่อ6 ตำบลนิคมสร้างตนเอง อ.เมืองลพบุรี ได้มีกลุ่มชาวบ้านและคณะกรรมการมูลนิธิลพบุรีสามัคคีสงเคราะห์พร้อมด้วย นายสมศักดิ์ ธนันทา ปลัดอำเภอเมืองลพบุรี และเจ้าหน้าฝ่ายปกครอง ได้ไปทำการตรวจสอบบริเวณพื้นที่ดังกล่าวซึ่ง ซึ่งทางมูลนิธิลพบุรีสามัคคีสงเคราะห์ได้ใช้พื้นที่ดังกล่าวในการสร้างเป็นสถานที่เก็บศพไร้ญาติรวมทั้งเป็นที่ดินที่ทางกลุ่มคนจีนได้ซื้อพื้นที่เพื่อทำเป็นสุสาน หรือฮวงซุ้ย เก็บศพบรรพบุรุษซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปถึงได้พูดคุยกับนายกัญจตังค์ หิรัญกิจรัตนกาญย์ กรรมการมูนิธิลพบุรีสงเคราะห์ ทราบว่าเดิมพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่จับจองและ และมีกลุ่มคนจีนได้รวบรวมเงินซื้อไว้เพื่อใช้สร้างเป็นสุสานและที่เก็บศพไร้ญาติ พื้นที่กว่า 8 ไร่ และมอบให้วัดดูแล ซึ่งดำเนินการก่อสร้างกันมากกว่า 60 ปี สถานที่แห่งนี้ ทางมูลนิธิลพบุรีสามัคคีสงเคราะห์ ได้ ก่อสร้างใช้เป็นที่เก็บศพไร้ญาติที่ทางเจ้าที่ตำรวจได้ทำการสอบสวนสืบสวนเป็นที่เรียบร้อยแล้วรวมทั้งโรงพยาบาลต่างๆก็ได้ให้ทางมูนิธิลพบุรีสงเคราะห์นำศพเหล่านั้นมาเก็บดูแลรักษาไว้เป็นเวลา 2 ปีหลังจากนั้น ก็จะทำการนำศพไร้ญาติไปทำพิธีฌาปนกิจซึ่งแต่ละครั้งจะมีไม่ต่ำกว่า 20ศพ
และเมื่อประมาณ 5 วันที่ผ่านมาทางวัดนิคมสามัคคีชัย หรือวัดบ่อ 6 ได้ว่าจ้างคนงานให้มาทำการล้อมรั้วปิดเส้นทางเข้าสุสานซึ่งตรงนี้ก็ได้มีการแจ้งความกับเจ้าที่ตำรวจแล้วซึ่งทางมูลนิธิเห็นว่าเมื่อทางวัดทำแบบนี้ถือว่าเป็นการปิดทางเข้าออกไม่สามารถที่จะเข้าไปนำศพไร้ญาติไปเก็บในสุสานรวมทั้งบรรดาญาติญาติของบรรพบุรุษที่นำ ไม่สามารถเข้าไปกราบไหว้ได้จึงได้แจ้งให้ทางเจ้าที่มาทำการตรวจสอบซึ่งในเบื้องต้นในสถานที่ดังกล่าวได้มีการก่อสร้างที่สำหรับเก็บศพขึ้นมาใหม่ส่วนของเดิมซึ่งในขณะนี้ก็มีศพไร้ญาติอยู่สร้างไว้ด้านในและมีการผุพังตามกาลเวลาจึงได้ย้ายออกมาสร้างบริเวณด้านนอกเพื่อจะได้นำศพไร้ญาติเข้ามาเก็บ ไว้เพื่อดำเนินการต่อไป
อย่างไรก็ตามนายกัญจตังค์ ได้กล่าวว่าเดิมได้พูดคุยกับทางจะเอาวาววัดนิคมสามัคคีชัยองค์้เก่า ซึ่งมรณภาพไปแล้วได้พูดคุยตกลงกันว่าทางวัดจะขอใช้พื้นที่ด้านในซึ่งเป็นที่สร้างสถานที่เก็บศพไร้ญาติเก่าเพื่อทำเป็นสถานที่ฌาปนกิจหรือเมรุ ซึ่งทางมูลนิธิลพบุรีสามัคคีสงเคราะห์ที่ดูแลพื้นที่ดังกล่าวอยู่ก็ได้ตกลงให้ทางวัดใช้พื้นที่ด้านหลังซึ่งอยู่นอกเขตที่มี ที่มีฮวงซุ้ยอันสุดท้ายซึ่งการพูดคุยตกลงกันด้วยดีเสมอมาและหลังจากนั้นทางมูนิธิลพบุรีสามัคคีสงเคราะห์ก็ได้มาสร้างสถานที่เก็บศพไร้ญาติขึ้นใหม่ด้านนอกจนกระทั่งในขณะนี้ทางวัดนิคมสามัคคีชัยหรือวัดบ่ได้มาสร้างรั้วปิดเส้นทางเข้าสุสานจึงก่อให้เกิดความเดือดร้อนดังกล่าว
ทางด้านนายวีระ จำลอง ผู้อำนวยการสำนักพุทธจังหวัดลพบุรี ได้กล่าวว่าทางวัดนิคมสามัคคีชัย หรือวัดบ่อ 6 ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ตรงที่ตั้งเป็นสุสานซึ่งทางวัดได้ออกโฉนดมาเมื่อปี 2554 และต้องการที่จะได้พื้นที่คืนเพื่อมาสร้างเสนาสนะสถานต่างๆแต่ทางวัดก็ยินดีที่จะให้ทางมูลนิธิลพบุรีสามัคคีสงเคราะห์ตามการดูแลในพื้นที่แต่ต้องมีการทำข้อตกลงกัน ให้ถูกต้องตามกฏหมายเสียก่อนซึ่งในปัจจุบันก็ยังไม่มีการตกลงกันแต่อย่างใดทางวัดจึงอาศัยอำนาจในฐานะเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดทำการล้อมรั้วดังกล่าว
ในขณะเดียวกันนายรัชพล ธุระพันธ์ นายอำเภอเมืองลพบุรี ได้เดินทางไปยังวัดนิคมสามัคคีชัยหรือวัดบ่อ. 6 และได้กล่าว ตนเอวจะเป็นคนกลางนำข้อมูลความเดือดร้อนรวมทั้งเหตุผลของทั้งสองฝ่ายนำมาประสานกันซึ่งในขณะนี้อยู่ในระหว่างประสานกับทางวัดเพื่อจะได้นำข้อมูลไปประสานต่อกับทางมูลนิธิลพบุรีสามัคคีสงเคราะห์เป็นการไก่เกลี่ยต่อไป
แสดงความคิดเห็น