ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลอุทัยสวรรค์ หนุ่มคลั่งยาไปก่อกวนยังเป็นห่วงและกังวลใจที่ผู้ต้องหาหลังจากถูกจับกุมแล้วจะถูกปล่อยออกมา ซึ่งเป็นช่องว่างของกฎหมายที่ไม่อาจดำเนินการได้ จะกลับมาก่อเหตุทำให้ชาวบ้านและชุมชนโรงเรียนเกิดความหวาดผวากลัวภัยร้ายจะเกิดขึ้นกับครอบครัวและชุมชน
วันนี้(21ตค.67)ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นางธิดาพร เสริมเปล่งศรี ผอ.โรงเรียนบ้านศรีบุญเรือง อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู ภายหลังเข้าไปแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนเวร สภ.ศรีบุญเรือง เมื่อวันที่ 16 ตค.67 ภายหลังจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของโรงเรียน พบว่าเมื่อวันที่ 13 ตค.67 เวลาประมาณ 00.30 น. มีชายวัยกลางคนซึ่งจากการตรวจสอบโดยรายละเอียดคือนายเอ(นามสมมุติ)ที่มีบ้านพักห่างจากโรงเรียนไม่ถึง 50 เมตรและเป็นผู้เสพยาเสพติดจนคลุ้มคลั่ง และโดยก่อนหน้านั้นเผาแนวป่าหลังโชว์รูมของ ประธาน กต.ตร.สภ.ศรีบุญเรือง เกือบวอดเมื่อวันที่ 13 เมย.ที่ผ่านมา เป็นผู้ก่อเหตุเผาบริเวณก่อไผ่และแนวรั้วโรงเรียน และยางรถยนต์บริเวณสวนหย่อมหน้าห้องน้ำถูกเผาไหม้ ได้รับความเสียหายมูลค่าร่วม 6 พันบาท ซึ่งทั้งรั้วโรงเรียนและสวนหย่อมที่ถูกเผาอยู่ห่างจากอาคารเรียนไม่ถึง 5 เมตร
นางธิดาพรฯผอ.โรงเรียนบ้านศรีบุญเรือง กล่าวต่อว่าภายหลังได้ตรวจสอบแน่ชัดจึงเข้าพบพนักงานสอบสวนเวร เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีเพราะว่าเป็นผู้ก่อเหตุภายในโรงเรียน ซึ่งเป็นสถานที่ราชการโรงเรียนบ้านศรีบุญเรือง มีเด็กตั้งแต่อนุบาล 2 จนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3 รวม 182 ชีวิตรวมคณะครูอีก 18 คน ก็เป็นห่วงที่สุดในเรื่องของความปลอดภัยโรงเรียนมีมาตรการต่างๆป้องกันแล้วแต่ว่าก็ยังมีเข้ามาอีก ซึ่งผู้ก่อเหตุเขาออกจากเรือนจำได้ประมาณ 2 อาทิตย์ แล้วก็เข้าไปก่อเหตุกลัวเกิดเหตุซ้ำรอยศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลอุทัยสวรรค์ อำเภอนากลาง เป็นเหตุกราดยิงและใช้อาวุธมีดไล่ฟันเด็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2565 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 36 คน (รวมผู้ก่อเหตุ)ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 24 คน
เพราะว่าคนที่เข้าไปก่อเหตุ เป็นผู้ที่เคยต้องโทษเกี่ยวกับยาเสพติด ที่นี่ก็ไม่ทราบว่าเขาจะมีพฤติกรรมแบบที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กอุทัยสวรรค์ หรือเปล่าเพราะว่าเขาเคยเข้ามาวนเวียนภายในโรงเรียน ในกรณีที่เขามาเผาทรัพย์สินของทางราชการดิฉันก็ได้มาแจ้งความกับสถานีตำรวจอำเภอศรีบุญเรือง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีบุญเรืองได้ดำเนินการตามกฎหมาย แต่กฎหมาย มีบทลงโทษเบา อยากให้มีการแก้กฎหมายให้เป็นบทลงโทษที่หนักสำหรับผู้ที่เสพยาแล้วก็ทำร้ายร่างกายทำร้ายทรัพย์สินคนอื่น เนื่องจากเห็นว่าเป็นผู้ที่มีอาการทางประสาท ซึ่งเป็นช่องว่างของกฎหมายที่ไม่อาจดำเนินการได้ จะกลับมาก่อเหตุทำให้ชาวบ้านและชุมชนโรงเรียนเกิดความหวาดผวากลัวภัยร้ายจะเกิดขึ้นกับครอบครัวและชุมชนในขณะที่พ่อค้าแม่ค้าในชุมชนและชาวบ้านก็หวาดผวา เกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย
#สุภัชรกานต์ แก้วสิงห์ หนองบัวลำภู
/ภาพและข่าว
แสดงความคิดเห็น