วันที่ 2 ธ.ค.68 เวลา 13.30 น. ที่ห้องสัมมนากรมราชทัณฑ์ กรมราชทัณฑ์ จ.นนทบุรี พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และ นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การส่งเสริมวินัยการออมสำหรับผู้ต้องขัง และมอบรางวัลกิจกรรม “กอช. สร้างอาชีพ มีรายได้ เพิ่มเงินออม” โดยมี นายชาญ วชิรเดช รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ นางสาววริศรา ศิริสุทธิเดชา ผู้อำนวยการกองพัฒนาพฤตินิสัย ผู้บัญชาการเรือนจำ ผู้อำนวยการทัณฑสถาน ผู้อำนวยการสำนัก/กองส่วนกลางกรมราชทัณฑ์ ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ เข้าร่วมฯ
โดย พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์ รู้สึกเป็นเกียรติ และยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสร่วมงานกับกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ในการจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การส่งเสริมวินัยการออมสำหรับผู้ต้องขัง ระหว่าง กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) กับ กรมราชทัณฑ์ ซึ่งวัตถุประสงค์หลักของความร่วมมือในครั้งนี้ คือ มุ่งเน้นการส่งเสริม “วินัยการออม” สำหรับผู้ต้องขังในเรือนจำและทัณฑสถาน สอดคล้องกับภารกิจหลักของกรมราชทัณฑ์ในการควบคุมดูแล และพัฒนาพฤตินิสัยของผู้ต้องขังตามมาตรฐานสากล เพื่อปกป้องและคุ้มครองสังคมให้ปลอดภัย“การออมเงิน” ถือเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนปล่อยตัวผู้ต้องขัง โดยให้โอกาสผู้ต้องขังได้เริ่มสะสมเงินออมตั้งแต่ยังอยู่ในเรือนจำ และรู้จักวางแผนอนาคตของตนเอง ผ่านการสะสมเงินออมเพื่อใช้ในยามชราภาพ กองทุนการออมแห่งชาติ จึงเข้ามาเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยให้ผู้ต้องขังสามารถเริ่มต้นการออมเงินได้ตั้งแต่อยู่ในเรือนจำ/ทัณฑสถาน และได้รับผลตอบแทนในระยะยาว เพื่อให้ได้รับสิทธิในการสร้างหลักประกันชีวิตที่มั่นคงเหมือนประชาชนทั่วไป อีกทั้งยังเป็นแรงผลักดันให้ผู้ต้องขังมีกำลังใจพัฒนาตนเอง เห็นคุณค่าและความสำคัญของการจัดการเงินอย่างเป็นระบบ รวมถึงสร้างความหวังและความมั่นใจให้แก่ผู้ต้องขังในการกลับสู่สังคมอย่างภาคภูมิ
กรมราชทัณฑ์ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ความร่วมมือดังกล่าวจะช่วยเสริมภารกิจการพัฒนาพฤตินิสัยให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ทั้งในด้านความรู้ความเข้าใจเรื่องการออม การวางแผนด้านการเงิน และการสร้างวินัยทางการเงิน อันเป็นทักษะที่สำคัญของผู้ต้องขังในการปรับตัวเข้ากับสังคม อีกทั้งยังทำให้กระบวนการดูแลและพัฒนาผู้ต้องขังมีความยั่งยืนมากขึ้น สอดคล้องกับนโยบายการเตรียมความพร้อมก่อนปล่อย เพื่อให้ผู้ต้องขังสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างแท้จริง และไม่หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำอีก

สำหรับการมอบรางวัลกิจกรรม “กอช. สร้างอาชีพ มีรายได้ เพิ่มเงินออม” โดยการดำเนินงานที่ผ่านมาของเรือนจำ/ทัณฑสถาน ที่เป็นสมาชิก กอช. และเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ประสานงาน ในการส่งเสริมการออมให้แก่ผู้ต้องขัง จึงได้จัดงานมอบรางวัลจากการดำเนินกิจกรรมประจำปี 2568 ดังนี้

1. กิจกรรม “กอช. สร้างอาชีพ มีรายได้ เพิ่มเงินออม” ซึ่งเป็นกิจกรรม CSR ให้แก่ เรือนจำ/ทัณฑสถานที่มีผลการดำเนินงานดีเด่น ที่มียอดสมาชิกใหม่ ดังนี้

เกียรติบัตรหน่วยงานส่งเสริมการออม กับ กอช. ดีเด่น จำนวน 9 รางวัล ได้แก่ เรือนจำจังหวัดกาญจนบุรี เรือนจำกลางราชบุรี เรือนจำจังหวัดลำพูน เรือนจำกลางลำปาง ทัณฑสถานหญิงกลาง เรือนจำกลางเขาบิน ทัณฑสถานบำบัดพิเศษหญิง เรือนจำกลางบางขวาง เรือนจำกลางลพบุรี โดยทั้ง 9 เรือนจำ มีจำนวนสมาชิก กอช. รวมทั้งสิ้น 2,160 ราย

เกียรติบัตรบุคคลส่งเสริมการออมดีเด่น ให้แก่ผู้ประสานงานเรือนจำ/ทัณฑสถานดีเด่นจาก 9 เรือนจำ รวม 17 รางวัล

เกียรติบัตรและรางวัล “ชุดแจ้งเกิด” ที่มอบให้ผู้ต้องขังที่เป็นสมาชิก กอช. และกำลังพ้นโทษ เรือนจำ/ทัณฑสถานละ 1 รางวัล เพื่อเป็นทุนตั้งต้นในการประกอบอาชีพเมื่อพ้นโทษ โดยรางวัลชุดแจ้งเกิดนี้ ไม่ใช่เป็นเพียงแค่สิ่งของหรือเงินทุนเท่านั้น แต่เป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นใหม่ และ “แจ้งเกิด” ในฐานะสมาชิกคนหนึ่งของสังคมที่ประกอบอาชีพสุจริต มีรายได้เลี้ยงตัวเองและครอบครัว

2. รางวัล The Best Agent เป็นรางวัลที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง กอช. และเรือนจำ/ทัณฑสถาน ที่ช่วยกันสนับสนุนส่งเสริมให้มีสมาชิก กอช.

3. กิจกรรมมอบรางวัลส่งเสริมการออมสำหรับเรือนจำและทัณฑสถาน ที่มีผลงานส่งเสริมการออม กับ กอช. ดีเด่น ประจำปี 2568 จำนวน 6 รางวัล ได้แก่ เรือนจำกลางราชบุรี ได้รับรางวัลสมัครสมาชิกใหม่สูงสุด เรือนจำกลางเขาบิน ได้รับรางวัลยอดเงินรวมสะสมสูงสุด ทัณฑสถานหญิงกลาง ได้รับรางวัลยอดเงินรวมสะสมสูงสุด ทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ ได้รับรางวัลยอดเงินรวมสะสมสูงสุด เรือนจำกลางนครสวรรค์ ได้รับรางวัลยอดเงินรวมสะสมสูงสุด และ เรือนจำกลางบางขวาง ได้รับรางวัลยอดเงินรวมสะสมสูงสุด โดยทั้ง 6 เรือนจำ มีจำนวนสมาชิก กอช. รวมทั้งสิ้น 5,370 ราย

 

แสดงความคิดเห็น