เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 เวลา 10.08 น. พล.ท. นรธิป โพยนอก แม่ทัพภาคที่ 4/ผอ.รมน.ภาค 4 และ พล.ต. กฤศ ศรีเดชาสินธ์ุ ผอ.ศสว. ได้มอบหมายให้ พ.อ. เอกธวุฒิ คงคาเขตร ผอ.รร.การเมือง ศสว. นำรถทหารบรรทุกขนาดFTS okจาก ร.153 พัน. 3 พร้อมกำลังพล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ฝ่ากระแสน้ำ เข้าไปยังพื้นที่สนามบินหาดใหญ่ที่น้ำขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว ผู้ประสบภัยทั้ง 60 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวปัตตานีและยะลา ที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ และเครื่องบินลงจอดเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2568 ก่อนเกิดอุทกภัยใหญ่จนไม่สามารถออกจากสนามบินได้ ต้องนอนค้าง 2 คืน จนกระทั่งวันที่ 24 พฤศจิกายน ทหารได้เข้าให้การช่วยเหลือ
พ.อ. เอกธวุฒิ คงคาเขตร เปิดเผยว่า ได้นำผู้ประสบภัยออกจากสนามบินได้ตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน แต่เนื่องจากเส้นทางน้ำท่วมหนักและมวลน้ำกำลังขึ้นสูงในพื้นที่ อ.จะนะ จ.สงขลา จึงต้องนำรถมาจอดพักและนอนค้างที่ปั๊ม ปตท. ใน อ.จะนะ อีก 2 คืน เพื่อรอระดับน้ำลด ระหว่างการพักค้าง ได้เกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินเมื่อมีผู้ประสบภัยรายหนึ่งเป็นผู้ป่วยโรคไตที่ต้องทำการฟอกไตอย่างเร่งด่วน พ.อ. เอกธวุฒิ จึงได้ประสานไปยังโรงพยาบาลจะนะ เพื่อให้ส่งรถฉุกเฉินมารับผู้ป่วยฝ่ากระแสน้ำเข้าไปทำการฟอกไตได้ทันเวลา
เช้าวันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 เวลา 10.30 น. หลังตรวจสอบระดับน้ำจนแน่ใจว่ารถสูงสามารถผ่านได้ คณะช่วยเหลือได้นำผู้ประสบภัยเดินทางต่อและมาถึงสำนักงานป้องกันและสาธารณภัย เทศบาลนครยะลา จังหวัดยะลา อย่างปลอดภัย โดยมีนายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา พร้อมเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับ เลี้ยงอาหาร และนำผู้ป่วยโรคไตส่งโรงพยาบาลยะลาอย่างเร่งด่วน
นางฟาตีเมาะ เจะแว หนึ่งในผู้ประสบภัยที่เดินทางมาจากจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย พร้อมสามีที่เป็นผู้ป่วยไต กล่าวด้วยความตื้นตันใจว่า "ต้องทนต่อการเจ็บป่วย จนกระทั่งมีหน่วยงานทหารมาช่วย หากไม่มีทหารและหน่วยงานที่ช่วยในครั้งนี้ สามีคงไม่มีโอกาสกลับถึงบ้านแน่นอน"
ด้านนายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา ได้เตรียมการช่วยเหลือเพิ่มเติม โดยจัดเตรียมอาหารปรุงสุกกว่า 20,000 กล่องต่อวัน เพื่อแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยในพื้นที่ และจัดหาอุปกรณ์ในการช่วยเหลือขนย้ายจนกว่าสถานการณ์อุทกภัยจะกลับสู่ภาวะปกติปฏิบัติการของกองทัพบกในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความพร้อมและความเสียสละของกำลังพลที่เข้าช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ได้อย่างทันท่วงที ท่ามกลางสถานการณ์ที่ยากลำบาก ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการอพยพผู้คนเท่านั้น แต่ยังเป็นการช่วยชีวิตผู้ป่วยฉุกเฉินไว้ได้อีกด้วย ความร่วมมือระหว่างทหารและหน่วยงานท้องถิ่นเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้วิกฤตครั้งนี้คลี่คลายลงไซ













แสดงความคิดเห็น