ชาวนาหลายหมู่บ้าน ในตำบลหนองตาด  อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ได้รับความเดือดร้อน หลังได้รับผลกระทบจากอิทธิพลพายุ “คัลแกมี” กระหน่ำกลางดึก   ทำให้ข้าวเปลือกที่เก็บเกี่ยวแล้วนำไปตากไว้ตามริมถนน และลานโล่งในหมู่บ้าน   เพื่อลดความชื้นก่อนนำไปขาย  บางส่วนเตรียมเก็บใส่ยุ้งฉางไว้บริโภค  และเข้าร่วมโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าว หรือจำนำยุ้งฉาง  กับ ธ.ก.ส. ถูกฝนตกใส่เปียกชื้นเนื่องจากฝนตกกลางดึกเก็บไม่ทัน   และคาดว่าหากฝนตกติดต่อกันหลายวัน   ข้าวเปลือกที่เก็บเกี่ยวแล้ว  ยังเปียกชื้นตากไม่แห้ง  เมล็ดก็จะหัก  เหลือง  เสื่อมสภาพ เสี่ยงเน่าเสียหาย     ถือเป็นการซ้ำเติมทุกข์ชาวนา  ที่ช่วงเพาะปลูกประสบปัญหาฝนทิ้งช่วงได้ผลผลิตข้าวน้อยอยู่แล้ว    ขณะที่ชาวนาบางคนยังไม่กล้าเสี่ยงเกี่ยวในช่วงนี้   เพราะไม่มีสถานที่ตากกลัวจะถูกฝนตกใส่เสียหาย
 นายสมยศ    ยโสธรา   ชาวนาบ้านโนนสมบูรณ์  ต.หนองตาด  บอกว่า  ปีนี้ชาวนาประสบปัญหาหลายอย่าง  ทั้งช่วงเพาะปลูกก็เจอกับภาวะฝนทิ้งช่วงข้าวเสียหายบางส่วน  ทำให้ได้ผลผลิตไม่เต็มที่ลดลงจากปีที่ผ่านมาเกือบครึ่ง   ทั้งยังต้องแบกรับภาระค่าปุ๋ย  ค่ารถไถ  ค่าเกี่ยวที่แพงขึ้น    แล้วพอเก็บเกี่ยวเสร็จนำมาตากลดความชื้นก่อนจะเก็บใส่ยุ้งไว้บริโภค และแบ่งไปขาย   ก็มาเจอฝนตกใส่เปียกชื้นอีก    เป็นความทุกข์ร้อนของชาวนา  ตอนนี้ก็ทำได้แค่เก็บไปไว้ที่บ้านก่อน หากมีแดดค่อยเอาออกมาตากใหม่อีกรอบ    เพราะหากปล่อยไว้แล้วฝนตกใส่หลายวันติดต่อกันข้าวก็จะเหลืองหัก ถึงขั้นเมล็ดดำเน่าเสียหายได้   ก็อยากให้รัฐบาลช่วยเหลือชาวนาด้วย   หากข้าวเน่าเสียหายก็อยากให้ชดเชยเยียวยา  และพยุงราคาข้าวไม่ให้ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 16 บาท
 น.ส.จันธิกา   งามล้ำ    ชาวนาอีกราย บอกว่า    ข้าวที่ทยอยเก็บเกี่ยวแล้วนำมาตากลดความชื้นกลับมาเจอฝนตกใส่  ส่วนที่เหลือจึงชะลอไว้ก่อนยังไม่เกี่ยว เพราะเกรงว่าจะโดนฝนเปียกชื้นทำให้ข้าวเสียหายได้  ก็จะรอจนหมดฝนถึงจะเกี่ยว   ส่วนราคารับซื้อข้าวช่วงนี้หากเป็นข้าวสดก็อยู่ที่ตันละ 10,500 บาท  แต่หากเป็นข้าวที่ตากแห้งแล้วก็จะสูงกว่านี้    จึงต้องตากให้แห้งก่อนเพื่อให้ได้ราคา   แต่กลับมาเจอฝนตกใส่ซ้ำเติมอีก   ก็กลัวจะถูกกดราคาและหากฝนตกหลายวันก็จะทำให้ข้าวเสียหาย    ก็เป็นความเดือดร้อนของชาวนา

   สุรชัย     พิรักษา / บุรีรัมย์
 

แสดงความคิดเห็น