เมื่อเวลา 11:00 น วันที่ 26 พฤศจิกายน ที่อาการห้องประชุมเทศบาลตำบลสุนทรภู่ ตำบลกร่ำ อำเภอแกลงจังหวัดระยอง
นายคเชนทร์ แจ่มใส นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสุนทรภู่ นายสิงขร ถนอมจิตร กำนันตำบลชากพง สมาชิกสภาเทศบาลสุนทรภู่ กำนันผู้ใหญ่บ้านทั้งตำบลชากพง ผู้นำชุมชน
เข้าร่วมประชุมหลังจากที่สำนักงานทรัพยากรน้ำเดินทางมาเพื่อพบกับผู้นำชุมชนโดยมีนาง
ซึ่งผู้นำท้องถิ่นและประธานชุมชนกำนันผู้ใหญ่บ้านทั้งหมดไม่เห็นด้วยเนื่องจากเกรงว่าการที่จะนำกรมทรัพยากรน้ำเข้ามาในพื้นที่ชุ่มน้ำที่ดูแลโดยกระทรวงมหาดไทยและฝ่ายท้องถิ่นเป็นผู้ดูแลนั้นทางชาวบ้านเห็นว่าทางชาวบ้านอาจจะเสียผลประโยชน์เรื่องของการใช้พื้นที่ในการเกษตรขาดประโยชน์ในการพัฒนาให้ดีขึ้นให้เป็นแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดระยองด้วย
ซึ่งจุดดังกล่าวเป็นจุดแหล่งน้ำสำคัญประธานชุมชนและผู้นำชุมชนทั้งหมดนั้นเห็นความสำคัญของแหล่งน้ำและพื้นที่ชุ่มน้ำที่เป็นพื้นที่ดูแลของท้องถิ่นหากให้หน่วยงานราชการเข้ามากำกับดูแลอาจจะเปลี่ยนวิถีชีวิตของชาวบ้านได้และส่วนรายได้ที่ทางสวนพฤกษศาสตร์ปัจจุบันมีค่าเข้าและค่าเยี่ยมชมสถานที่ซึ่งเป็นที่ดูแลของชุมชนแต่กลับไม่มีรายได้เข้าชุมชนแต่อย่างใดเป็นเหตุให้การประชุมครั้งนี้ไม่สามารถที่จะหาข้อสรุปได้และให้มีการประชุมครั้งใหม่แต่ยังไม่ระบุว่าเป็นวันไหน
นายคเชนทร์ แจ่มใส นายกเทศมนตรีเทศบาลสุนทรภู่เปิดเผยว่าการประชุมครั้งนี้ทางกรมทรัพยากรน้ำไม่ได้ทำการบ้านมาจึงเป็นเหตุให้ชุมชนและผู้นำชุมชนไม่ทราบข้อมูลที่เท็จจริงที่สำคัญคือจุดดังกล่าวเป็นพื้นที่สำคัญของกระทรวงมหาดไทยและกำกับดูแลโดยท้องถิ่นซึ่งจุดดังกล่าวเป็นที่ชุ่มน้ำมีความสวยงามประกาศเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำระดับประเทศแต่กรมทรัพยากรน้ำจะขยับให้เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำระดับโลกเชื่อว่าน่าจะมีอะไรบางอย่างแอบแฝงเพื่อให้ได้ซึ่งการครอบครองพื้นที่ทั้งหมดทางชุมชนและผู้นำชุมชนไม่ยอมเด็ดขาดหากทางเราเป็นเจ้าของพื้นที่เองแล้วให้หน่วยงานอื่นเข้ามาดูแลและกำกับดูแลนั้นประชาชนในพื้นที่ไม่มีส่วนได้หรือไม่ได้เข้ามาให้กับชุมชนและตำบลตนเองไม่ยอมเด็ดขาดขอเคียงข้างต่อสู้เพื่อประชาชนในครั้งนี้
ด้านนายชาญชัย ศรีประสิทธิ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ตำบลชากพง เปิดเผยว่าตนเองนั้นคัดค้านเรื่องนี้มาตลอดก่อนหน้านั้นมีหนังสือมาเพื่อแสดงให้ตนเองไปชี้แนวเขตหลังวัดเพื่อให้สวนพฤกษศาสตร์มีเนื้อที่และเป็นขอบเขตมาทราบภายอีกว่าจะถอนสภาพจากพื้นที่สวนพฤกษศาสตร์ทั้งหมดให้กับส่วนธนารักษ์ชาวบ้านทั้งหมดจึงเริ่มออกมาคัดค้านในเรื่องนี้เนื่องจากตัวเองว่าอาจมีการถอนสภาพแล้วอาจเป็นเหตุให้มีขอบเขตของการเข้าพื้นที่ได้มีการออกมาเคลื่อนไหวและคัดค้านในเรื่องนี้อย่างเต็มที่พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำและมีความสวยงามมีพื้นป่าและนกนานาชนิดรวมทั้งสัตว์น้ำที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติชาวบ้านโดยรอบยังได้อาศัยน้ำทำประปาทำการเกษตรอย่างต่อเนื่องหากมีการตั้งกฎเกณฑ์แล้วทางชาวบ้านจะเปลี่ยนแปลงวิถีที่เป็นอยู่ในปัจจุบันซึ่งชาวบ้านทุกคนไม่ยอมเป็นอันขาดและจะไม่ให้ที่ผืนนี้ตกเป็นของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งเพราะเป็นพื้นที่ที่ประชาชนต้องใช้ประโยชน์ร่วมกัน
แต่หากมีการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวก็ขอให้เป็นหน้าที่ของท้องถิ่นเป็นผู้พัฒนาเพื่อจะได้นำเงินเข้ามาพัฒนาสู่ท้องถิ่นต่อไป.
สมนึก กรมภักดิ์/ระยอง
แสดงความคิดเห็น