ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 ต.ค.68 ที่ผ่านมา พันตำรวจเอกภคพล  สุชล ผกก.2 บก.ทล พันตำรวจโทโจ  เสาร์ประโคน สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 6 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง (สว.ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล.)สั่งการให้ ร้อยตำรวจโทกุศล  ยะฝั้น รอง สว(ป) ส.ทล.6 กก.2บก.ทล ,ร้อยตำรวจตรีพีรธรรม  หนูนุรัตน์ รอง สว.(ป.) ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล. พร้อมกำลังนำรถตรวจการออกลาดตระเวนไปตามเส้นทางรับผิดชอบเพื่อป้องกันการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมายขณะออกตรวจบริเวณหน้าหน่วยบริการตำรวจทางหลวงไทรโยค พบรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้าฟอร์จูเนอร์ สีดำ หมายเลขทะเบียน กร 9034 กาญจนบุรี ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนด้านท้าย มีลักษณะบรรทุกสิ่งของหนักผิดปกติ ขับมาจากทางด้านอำเภอทองผาภูมิไปตามถนนทางหลวงสาย 323 มุ่งหน้าตัวอำเภอเมืองกาญจนบุรี เมื่อผิดสังเกตเจ้าหน้าที่จึงขับรถตรวจการณ์ติดตามไปพร้อมพยายามส่งสัญญาณเรียกและไฟส่องสว่างให้คนขับหยุดรถ แต่ประกฎคนขับไม่ยอมพร้อมกับเร่งเครื่องหลบหนีไปอย่างรวดเร็วเมื่อถึงบริเวณแยกบ้านเก่าคนขับได้เลี้ยวขวามุ่งหน้าไปตามถนนทางหลวงหมายเลข 3229 เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้ติดตามไปอย่างกระชั้น พร้อมประสานไปยัง พันตำรวจเอกสุรยุทธ  เมฆมังกร ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี
และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองกาญจนบุรี เพื่อขอกำลังช่วยสกัดจับ เมื่อไปถึงท้องที่หมู่ 7 บ้านพุประดู่ ตำบลหนองบัว อำเภอเมืองกาญจนบุรี ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร คนขับได้เลี้ยวซ้ายเข้าไปตามถนนภายในหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อถึงบริเวณทางโค้งรถคันดังกล่าวเกิดเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าแรงสูงริมทางอย่างแรงจนเสาไฟฟ้าหักโค่น โชคที่สายไฟยังยึดเอาไว้ไม่เช่นนั้นคงล้มขวางเส้นทางการจราจรอย่างแน่นอนหลังจากเกิดอุบัติเหตุภาพที่เห็นจากคลิปพบคนขับได้รีบเปิดประตูแล้ววิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าท่ามกลางความมืดอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่พยายามไล่ติดตามแต่ไม่ทัน ส่วนแรงงานที่โดยสารมากับรถได้พยายามวิ่งหลบหนีเช่นกัน แต่เจ้าหน้าที่ก็สามารถควบคุมตัวเอาไว้ได้ทั้งหมด จำนวน 15 คน  เป็นชาย 7 คน หญิง 8 คน โดย 1 ใน 15 คน มีหญิงสาวชาวลาว 1 คน และหลังจากเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์สำนักงานใหญ่ได้รับแจ้งการเกิดอุบัติเหตุ จึงนำกำลังไปตรวจสอบพร้อมอุปกรณ์ทางการแพทย์ไปช่วยปฐมพยาบาล แต่ปรากฏว่าไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงนำตัวกลุ่มแรงงานทั้ง 15 คนมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี พร้อมกับประสานไปยังเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคกาญจนบุรี ลงพื้นที่ไปตรวจสอบเสาไฟฟ้าที่ถูกชนได้รับความเสียหายเพื่อตีมูลค่าทรัพย์สินของทางราชการ จากนั้นจึงเคลื่อนย้ายรถยนต์คันดังกล่าวมาเก็บไว้ที่
สภ.เมืองกาญจนบุรีในภายหลังจากการตรวจสอบเอกสารปรากฏว่าผู้ต้องหาทั้ง 15 ราย ไม่มีเอกสารมาแสดงอีกทั้งไม่สามารถสื่อสารหรือพูดภาษาไทยได้ จึงต้องสอบปากคำผ่านล่ามแปล ทราบว่าทั้งหมดเป็นชาวย่างกุ้งและจังหวัดมันดาเลย์ ประเทศเมียนมา หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรด้วยการใช้ช่องทางธรรมชาติตามแนวชายแดนด้านอำเภอพญาตองซู ประเทศเมียนมา จากนั้นมาขึ้นรถยนต์ที่จอดรอในพื้นที่บ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี โดยคนขับใช้ถนนสาย 323 ขับผ่าน อำเภอสังขละบุรี อำเภอทองผาภูมิ อำเภอไทรโยค เพื่อมุ่งหน้าไปยังอำเภอเมืองกาญจนบุรี เมื่อไปถึงจะมีนายหน้ามารับกระจายไปทำงานตามสถานที่ต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดชั้นใน โดยต้องจ่ายเงินให้กับนายหน้าคนจัดหางานคนละ 15,000-25,000 บาท ขึ้นอยู่กับระยะทาง ระหว่างเดินทางก็มาถูกเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวได้เสียก่อน ส่วนคนขับอาศัยความืดหลบหนีไปได้ ส่วนพวกตนไม่รู้จะหนีไปทิศทางไหนเพราะไม่รู้เส้นทางจึงยอมมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ดังกล่าวหลังจากผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อกล่าวหา กระทำความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต”ส่วนรถยนต์ที่ใช้เป็นพาหนะเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบอีกครั้งหนึ่งว่าผู้ครอบครองนั้นเป็นใคร จากนั้นจะได้เรียกให้มาพบพนักงานสอบสวนในภายหลัง
ข่าวภูมิภาค / ปรีชา  ไหลวารินทร์ ผู้สื่อข่าวนิวสผ์24สถานีประชาชนประจำจังหวัดกาญจนบุรี///สุพจน์บดินทร์ กุ่มประสิทธิ์ บก.ข่าวออนไลน์ 77จังหวัด









แสดงความคิดเห็น