ร้อยเอ็ด-ต้อนรับเอกอัครราชทูตอินโดนีเซีย เชื่อมสัมพันธ์ไมตรี เสริมสร้างความร่วมมือไทย–อินโดนีเซียผ่านศิลปวัฒนธรรม

วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 09.00 น. ณ ห้องรับรองบ่อพันขัน ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ให้การต้อนรับ ฯพณฯ นายระห์หมัด บูดีมัน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำประเทศไทย พร้อมคณะผู้แทนทางการทูตในการเยือนอย่างเป็นทางการ เพื่อกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐอินโดนีเซียคณะผู้แทนประกอบด้วย นายโดซี่ อาเดสอน อัครราชทูตที่ปรึกษา (กิจกรรมสังคมและ

วัฒนธรรม) นางริเกอร์ วิทยายันต์ ออคตาเวียนา ทูตที่ปรึกษา (กองกิจการการเมือง) นางซีตี ดาเนียลา ฮารุวัน ผู้ช่วยทูตด้านการศึกษาและวัฒนธรรม  นายสุไลมาน นาราวี เจ้าหน้าที่ล่ามจาก ส.อ.ท. อินโดนีเซีย โดยมีหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ดร่วมให้การต้อนรับ อาทิ นายเชาวฤทธิ์ ลำพาย ผู้อำนวยการเชี่ยวชาญ วิทยาลัยอาชีวศึกษาร้อยเอ็ด, นายกฤต อรรคศรีวร หัวหน้าสำนักงานจังหวัดร้อยเอ็ด และนางราณี วงศ์ลุน พัฒนาการจังหวัดร้อยเอ็ด ในการนี้ ฯพณฯ เอกอัครราชทูตอินโดนีเซีย กล่าวว่า การเดินทางเยือนจังหวัดมหาสารคามและจังหวัดร้อยเอ็ด ระหว่างวันที่ 23 – 25 กรกฎาคม 2568 มีวัตถุประสงค์เพื่อ

กระชับความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศ เสริมสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานระดับภูมิภาค และแลกเปลี่ยนแนวทางการพัฒนา โดยเฉพาะในมิติศิลปวัฒนธรรม และการศึกษาที่มีบทบาทต่อความเข้าใจและความใกล้ชิดระหว่างประชาชนทั้งสองชาติจุดเน้นสำคัญของการเยือนในครั้งนี้ ได้แก่ การส่งเสริม ผ้าบาติก ซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของอินโดนีเซีย การแลกเปลี่ยนกับ ผ้าลายสาเกต ของจังหวัดร้อยเอ็ด โดยมี วิทยาลัยอาชีวศึกษาร้อยเอ็ด และสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดร้อยเอ็ด ทำหน้าที่เป็นภาคีเครือข่ายในการประสานความร่วมมือพร้อมกันนี้ สถานเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทย ได้กำหนดจัดกิจกรรมเชิงปฏิบัติการด้านศิลปวัฒนธรรมอินโดนีเซีย ในวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 และกิจกรรมส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมร่วมไทย–อินโดนีเซียในวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 ณ วิทยาลัยอาชีวศึกษาร้อยเอ็ด นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวแสดงความยินดีต่อการเยือนของคณะทูต และยืนยันความพร้อมในการส่งเสริมความร่วมมือด้านศิลปวัฒนธรรม และความสัมพันธ์ประชาชนต่อประชาชน (People-to-People Relations) ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนในภูมิภาค นอกจากนี้ การเยือนครั้งนี้ยังมีความหมายพิเศษ เนื่องในวาระครบรอบ 75 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างอินโดนีเซียและไทย ซึ่งถือเป็นหมุดหมายสำคัญของการเฉลิมฉลองมิตรภาพระหว่างสองประเทศอย่างเป็นทางการ/////คมกฤช พวงศรีเคน / ข่าว–ภาพ ผู้สื่อข่าวนิวส์24สถานีประชาชนจังหวัดร้อยเอ็ด