เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2568ที่ บ้านเลขที่ 37 หมู่ 3 บ้านโนนสังข์ศรี ตำบลบ้านซ่ง อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหารครอบครัวและญาติของ จ่าสิบเอก ธวัชชัย บุสภา หรือ "จ่าโต๋" นายสิบลาดตระเวนปืนใหญ่ 106 พัน.6 (กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 106 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 6) ทำหน้าที่ ผู้ตรวจการแนวหน้าฐานฟ้าลั่นได้
รวมตัวกันด้วยความเศร้าโศก หลังทราบข่าวว่าเขา เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่แนวหน้าบริเวณฐานปฏิบัติการฟ้าลั่น (เขาสัตโสม) อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ จากเหตุปะทะและการยิงถล่มของกัมพูชาจากบริเวณเนิน 333โดยบรรยากาศภายในบ้านเป็นไปด้วยความโศกเศร้า มีญาติพี่น้องและชาวบ้านในหมู่บ้านต่างเดินทางมา
ช่วยกันทำความสะอาดบ้าน และจัดเตรียมพื้นที่สำหรับรับศพกลับจากชายแดนเพื่อประกอบพิธีทางศาสนาและบำเพ็ญกุศลตามประเพณีนางวิไล บุสภา อายุ 58 ปี มารดาของจ่าโต๋กล่าวทั้งน้ำตาว่า “เมื่อคืนลูกชายโทรมาคุย บอกว่าเพิ่งยิงตอบโต้ฝ่ายตรงข้ามเสร็จ กำลังจะอาบน้ำนอนไม่คิดเลยว่าจะเป็นการคุยกันครั้งสุดท้าย..
 และกล่าวต่อด้วยความภาคภูมิใจว่า ลูกชายอยากเป็นทหารตั้งแต่เด็ก หลังจากเป็นทหารเกณฑ์ก็สอบเป็นนายสิบอยู่แนวชายแดนมากว่า 10 ปีวันนี้แม้เขาจะไม่อยู่แล้ว แต่แม่ภูมิใจที่ลูกสละชีพอย่างสมศักดิ์ศรี เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติและบ้านเมืองนางสาวรจรินทร์ สิงห์ศร ภรรยาของจ่าโต๋ เปิดเผยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า เมื่อ
เวลา 04 .00 น. ของวันที่ 25 กรกฎาคม จ่าโต๋ส่งข้อความมาขอรูปลูกชาย แต่ตนเพิ่งมาเปิดดูตอนตี 05.00 น. ยังไม่ทันได้ส่งให้หลังจากนั้นตอนเวลาประมาณ 9.00 น. ญาติโทรมาถามว่าติดต่อจ่าโต๋ได้ไหม ก็เลยโทรไปหาแต่ก็ไม่ติด ก่อนจะรู้ความจริงจากญาติในเวลาต่อมาว่าจ่าโต๋เสียชีวิตแล้ว“ตอนนี้ฉันยังไม่รู้จะอธิบายให้ลูกชายเข้าใจอย่างไรเขายังเล็กมาก เพิ่งขวบเศษเอง... แต่ก็จะเล่าให้เขาฟังว่าพ่อของเขาเป็นวีรบุรุษ...ที่พลีชีพเพื่อปกป้องแผ่นดินไทย” นางสาวรจรินทร์ กล่าว#RIPจ่าโต๋ #ทหารกล้าแห่งฟ้าลั่น #//////ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ ผู้สื่อข่าวนิวส์24สถานีประชาชน จ.มุกดาหาร​ รายงาน​

แสดงความคิดเห็น