7 มิถุนายน 2568 นางกนกรัตน์ ยุกติรัตน์ พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่าจากกรณีที่มีการเผยแพร่ข่าวว่า มีล้งรับซื้อลิ้นจี่พันธุ์จักรพรรดิในราคาต่ำเพียงกิโลกรัมละ 18 บาทนั้น สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ขอชี้แจงว่า ราคาดังกล่าวเป็นราคาที่สะท้อน คุณภาพของผลผลิตบางส่วนที่มีตำหนิ ไม่ได้เป็นราคากลางของตลาดแต่อย่างใด

.

     จากการตรวจสอบร่วมกับสำนักงานเกษตรอำเภอ และตัวแทนเกษตรกรในพื้นที่ พบว่า ผลผลิตลิ้นจี่พันธุ์จักรพรรดิที่เริ่มออกสู่ตลาดประมาณร้อยละ 25 ขณะนี้ มีบางส่วนที่มีหนอนเจาะหัว หรือผิวไม่สวยงาม ซึ่งทำให้ล้งในพื้นที่ต้องปรับราคาลง โดยรับซื้อในราคากิโลกรัมละ 18 บาท เฉพาะลิ้นจี่ที่มีตำหนิเท่านั้น

.

     ในภาพรวม จังหวัดเชียงใหม่มีลิ้นจี่หลากหลายสายพันธุ์ ออกสู่ตลาดตามช่วงเวลา ได้แก่ พันธุ์ฮงฮวย จักรพรรดิ และกิมเจง โดยพันธุ์จักรพรรดิถือเป็นสายพันธุ์หลัก คิดเป็นร้อยละ 63 ของผลผลิตทั้งหมด ซึ่งในปีนี้คาดว่ามีผลผลิตออกสู่ตลาดประมาณ 3,220 ตัน โดยมีสัดส่วนลิ้นจี่ GI (คุณภาพพิเศษ) ร้อยละ 10

.

     สำหรับราคาจำหน่ายในตลาด ณ วันที่ 6 มิถุนายน 2568 มีความแตกต่างกันตามขนาดและคุณภาพ ดังนี้


ลิ้นจี่พันธุ์จักรพรรดิ เบอร์ AA ราคากิโลกรัมละ 30 – 35 บาท


เบอร์ A ราคากิโลกรัมละ 18 – 20 บาท


เบอร์ B ราคากิโลกรัมละ 8 – 10 บาท


ราคาส่งตลาดเมืองใหม่ อยู่ที่ 45 บาท/กิโลกรัม


ราคาปลีกทั่วไปในจังหวัดอยู่ที่ 50 – 60 บาท/กิโลกรัม

.

     เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและรักษาเสถียรภาพของตลาด จังหวัดเชียงใหม่ได้ดำเนินมาตรการหลายด้าน อาทิ การเปิดจุดจำหน่ายลิ้นจี่โดยตรงให้เกษตรกร เช่น ที่หน้าโรงแรมสมายล้านนา การสนับสนุนค่าขนส่งทางไปรษณีย์ฟรี รวมถึงการเชื่อมโยงลิ้นจี่คุณภาพไปยังโรงงานแปรรูป เช่น บริษัท ไฮไลฟ์ โกลบอล ฟู้ดส์ จำกัด ที่รับซื้อลิ้นจี่จำนวน 100 ตัน ในราคานำตลาด

.

     ทั้งนี้ จังหวัดได้ขอความร่วมมือเกษตรกรให้ดูแลคัดแยกผลผลิตอย่างมีคุณภาพก่อนส่งขาย เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อราคาตลาดและภาพลักษณ์ของผลไม้คุณภาพจากเชียงใหม่


ส่งศักดิ์ พรมเอี่ยม ศูนย์ข่าวภาคเหนือรายงาน

แสดงความคิดเห็น