พ่อเลี้ยงเดี่ยวชาวบุรีรัมย์สุดช้ำ  อดีตภรรยาหลอกเอากระบะไปจำนำนายทุน 20,000 เพื่อหาเงินไปใช้หนี้แม้ถูกรีดดอกเบี้ยสุดโหดสัปดาห์ละ 2,750 บาท  ก่อนเมียชิ่งหนีทิ้งหนี้บานและลูกให้เลี้ยงอีก 2 คนสุดลำบาก   พยายามติดต่อขอไถ่รถคืนนายทุนกลับบ่ายเบี่ยง โร่แจ้ง ตร.ผ่านไปเกือบ 3 ปีเรื่องยังเงียบ วอน ตร.เร่งติดตามตัวนายทุนดำเนินคดีและอยากได้รถคืน  


(8 พ.ค.68)   นายสุพัฒ   สะใบ  อายุ 46 ปี  ชาว อ.บ้านด่าน  จ.บุรีรัมย์  อาชีพรับจ้าง  ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวหลังภรรยาทิ้งให้เลี้ยงลูกลำพัง 2 คน ได้นำรูปถ่าย  และสำเนาเล่มทะเบียนรถยนต์กระบะ ยี่ห้อฟอร์ด เรนเจอร์ สีเทา ทะเบียน 3188 บุรีรัมย์  ออกมาร้องขอความเป็นธรรมและขอความช่วยเหลือ  โดยอ้างว่าถูกนายทุนที่รับจำนำรถยนต์โกงไม่ยอมให้ไถ่ถอนรถคืน    

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.2565  อดีตภรรยา  ได้หลอกล่อให้นำรถยนต์คันดังกล่าว ซึ่งเป็นชื่อของสามีเป็นผู้เช่าซื้อและครอบครอง  ไปจำนำกับนายทุน รายหนึ่งอายุประมาณ 64 ปีเป็นชาวจังหวัดระยอง   ซึ่งอดีตภรรยาอ้างว่ามีคนแนะนำให้รู้จัก  โดยมีการนัดส่งมอบรถยนต์กันที่ปั้มน้ำมันแห่งหนึ่งในตัวเมืองบุรีรัมย์  ซึ่งตกลงจำนำรถยนต์คันดังกล่าวในราคา 20,000 บาท  เพราะต้องการเงินไปใช้หนี้ไฟแนนซ์  แต่วันส่งมอบรถคันที่จำนำให้ นายทุนกลับให้เงินมาแค่ 17,000 บาท ส่วนอีก 3,000 บาทอ้างว่าหักเป็นดอกเบี้ยล่วงหน้า  ซึ่งตามที่ตกลงกับนายทุนจะเก็บดอกเบี้ยสัปดาห์ละ 2,750 บาท ไปจนกว่าจะมีเงินก้อนไปไถ่ถอนรถคืน  จากนั้นผ่านไป 1 สัปดาห์ นายทุนก็เรียกเก็บดอกเบี้ยอีก 2,750 บาทเรื่อยๆ ทุกสัปดาห์  โดยตนให้เงินอดีตภรรยาเป็นคนโอนจ่าย   กระทั่งช่วงเดือน มี.ค.66  อดีตภรรยาซึ่งมีหนี้สินหลายทาง ก็ได้หนีไปทิ้งให้ตนเองเลี้ยงลูก 2 คนลำพัง  ปัจจุบันลูกคนโตอายุ 17 ปี  คนเล็ก อายุ 3 ขวบ    จากนั้นก็พยายามติดต่อนายทุน เพื่อจะขอไถ่ถอนรถยนต์ที่จำนำไว้คืน  แต่นายทุน ก็บ่ายเบี่ยงอ้างโน่นอ้างนี้สารพัด กระทั่งไม่สามารถติดต่อได้  จึงเชื่อว่ามีเจตนาจะเบียดบังเอารถยนต์ของตนเองไป  


ต่อมาวันที่ 27 เม.ย.2566  จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ให้เอาผิดกับนายทุน คนดังกล่าวฐานเจตนาเบียดบังเอารถยนต์ไป  และอยากได้รถยนต์คืน แต่หากนายทุน แอบเอารถไปขายต่อ หรือชำแหละไม่เหลือสภาพเดิม  ก็อยากให้ชดใช้และดำเนินคดีตามกฎหมาย    จะได้ไม่ไปก่อเหตุแบบนี้กับคนอื่นอีก  

นายสุพัฒ   ผู้ร้อง  บอกว่า  หลังจากแจ้งความผ่านไปเกือบ 3 ปีจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้า นายทุน ยังไม่ถูกดำเนินคดี ส่วนรถยนต์ก็ยังไม่ได้คืน  จึงอยากจะวอนให้เจ้าหน้าที่ช่วยติดตามรถคืน เพราะกว่าจะผ่อนรถคันนี้แสนลำบาก ทุกวันนี้ไม่มีรถยนต์ขับไปธุระหรือทำงาน  ซ้ำอดีตภรรยายังหนีไปทิ้งให้เลี้ยงลูกเพียงลำพัง  





     สุรชัย    พิรักษา / บุรีรัมย์


แสดงความคิดเห็น