วันที่ 26 มีนาคม 2568 เวลา 09.30 น. ที่เรือนจำกลางนครปฐม จ.นครปฐม พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม  มอบหมายให้นางจิรภา สินธุนาวา รองปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์ทดสอบมาตรฐาน ฝีมือแรงงาน ประจำเขต 7 พร้อมด้วยนายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์,นายภัทรวุธ เภอแสละ  รองอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน  เข้าร่วมในพิธี  โดยมี นายขวัญไชย สันติภราภพ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครปฐม,ข้าราชการเรือนจำกลางนครปฐมและข้าราชการกรมราชทัณฑ์ เขต7คอยให้การต้อนรับ
      กรมราชทัณฑ์ มีนโยบายในการพัฒนาและส่งเสริมอาชีพให้ผู้ต้องขังได้รับการฝึกอบรมอาชีพที่มีความสอดคล้องกับตลาดแรงงาน เพื่อยกระดับมาตรฐานด้านวิชาชีพผู้ต้องขังให้มีมาตรฐานเท่าเทียม กับแรงงานฝีมือภายนอก และเป็นที่ยอมรับของตลาดแรงงานมากยิ่งขึ้น จึงจัดตั้งศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานประจำเขตโดยใช้ชื่อว่า  “1 เขต 1 ศูนย์ทดสอบ” โดยได้รับความร่วมมือจากสำนักพัฒนามาตรฐาน    และทดสอบฝีมือแรงงาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จากสาขาอาชีพที่เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน จำนวน 7 สาขาอาชีพนำร่อง ได้แก่ 1. ช่างไฟฟ้า 2. ช่างเชื่อม 3. ช่างก่ออิฐ 4. ช่างปูกระเบื้อง 5. ช่างตัดผมบุรุษ 6. ช่างตัดผมสตรี และ 7. พนักงานนวด โดยเรือนจำกลางนครปฐม เป็นเรือนจำแห่งแรกที่ดำเนินการจัดตั้งเป็นศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน ประจำเขต เป็นเรือนจำนำร่อง ซึ่งได้จัดตั้งศูนย์ฯ จำนวน 3 สาขาวิชา ได้แก่ สาขาช่างไฟฟ้าภายในอาคาร สาขาช่างเชื่อม และสาขาผู้สัมผัสอาหาร ณ ศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานประจำเขต 7 เรือนจำกลางนครปฐม
   ทั้งนี้ เรือนจำกลางนครปฐม ได้ดำเนินการขับเคลื่อนการพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขังผ่านกระบวนการฝึกอบรมวิชาชีพให้ผู้ต้องขังในหลากหลายอาชีพ เพื่อให้สามารถเข้ารับการอบรมตามความรู้ ความสามารถและความสนใจของผู้ต้องขัง สำหรับผู้ต้องขังหญิง จัดให้มีอาชีพที่เหมาะสม อาทิเช่น อาชีพช่างเสริมสวย/ช่างทำเล็บ,งานฝีมือการถักกระเป๋ามาคราเม่,ซัก อบ รีด และผู้ประกอบอาหาร สำหรับผู้ต้องขังชาย อาทิเช่น อาชีพช่างไฟฟ้า,ช่างเชื่อม,ช่างตัดผม, การทอผ้าการทำ paper mache และการประกอบอาหารทำน้ำพริก (น้ำพริกนรก)“Cook Khao” ที่ได้รับมาตรฐาน อย.) ซึ่งไม่เพียงแต่อาชีพอิสระเท่านั้น เรือนจำกลางนครปฐมยังส่งเสริมการทำงานในรูปแบบอุตสาหกรรมระบบโรงงาน เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนปล่อย
ให้ผู้ต้องขังได้มีประสบการณ์การทำงานก่อนออกสู่สังคมภายนอก โดยจะมีการต่อยอดและขยายสาขาวิชาชีพที่มีความพร้อมในอนาคต เพื่อรองรับความต้องการของตลาดแรงงานภายนอกให้มากยิ่งขึ้น และเพื่อให้ผู้ก้าวพลาดมีอาชีพรองรับภายหลังพ้นโทษ สร้างรายได้เพียงพอต่อการดำรงชีพ และไม่หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำอีก




 

แสดงความคิดเห็น