วันนี้ (20 ก.พ. 68) นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยนายอำเภอดอยเต่า หัวหน้าสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ไฟป่าพร้อมส่วมอบน้ำดื่มและเครื่องดื่มชูกำลังให้เจ้าหน้าที่ดับไฟป่าในพื้นที่บ้านโป่งทุ่ง และบ้านแม่บวน ต.โป่งทุ่ง อ.ดอยเต่า ซึ่งวันนี้ได้เกิดไฟไหม้ขึ้นที่บริเวณพื้นที่ดังกล่าว เป็นการรับแจ้งจากเจ้าหน้าที่เฝ้าสังเกตการณ์อยู่บนที่สูง ซึ่งทันทีที่ได้รับแจ้งพิกัดไฟป่า เจ้าหน้าที่ปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้นำกำลังเข้าพื้นที่เพื่อดับไฟทันทีจนแล้วเสร็จ โดยใช้เวลาดับราว 1 ชั่วโมง 30 นาที

.


นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่า สิ่งสำคัญในการรับมือกับสถาการณ์ไฟป่าหมอกควันในปีนี้สิ่งแรก คือการสร้างความเข้าใจเรื่องการเผากับชาวบ้าน ว่ามันส่งผลเสียทั้งต่อตนเองและเพื่อนมนุษย์ และเมื่อทำความเข้าใจแล้ว ต่อไปคือการตกลงร่วมกันและขอความร่วมมือไม่เผา ซึ่งไฟป่าที่เกิดขึ้นทุกวันนี้เกิดจากการที่คนจุดไฟ 100% ฉะนั้นการทำความเข้าใจร่วมกันจึงเป็นสิ่งสำคัญในการควบคุมไฟ กรณีที่ไม่สามารถห้ามหรือควบคุมได้และมีการจุดไฟขึ้น เราต้องรู้ให้เร็วจากการติดตามจากดาวเทียม ควบคู่กับการลาดตระเวน การเฝ้าระวังสังเกตการณ์บนที่สูงด้วย นำไปสู่การดับเร็ว จะทำให้ไฟไม่ลุกลามเป็นวงกว้าง และค่าฝุ่นก็จะไม่เพิ่มสูงขึ้น ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนที่อยู่ในพื้นที่และเป็นผู้ปฏิบัติหน้างานจริงนั้นทำงานอย่างขันแข็งตลอด 24 ชั่วโมง ทุ่มเท เสียสละตัวเอง เพื่อปกป้องผืนป่า ช่วยกันดับไฟอย่างเต็มที่ และกำลังพลทุกนายยังมีกำลังใจที่ดี 

.


ด้าน นายเพิ่มศักดิ์ ศรีสวัสดิ์ นายอำเภอดอยเต่า ก็ได้เปิดเผยถึงสถานการในพื้นที่ว่า อำเภอดอยเต่าจะต้องใช้เวลาในการต่อสู้กับการเกิดไฟป่านานถึง 4 เดือน ถือเป็นความยากและท้าทายอีกอย่างหนึ่ง โดยอำเภอดอยเต่ามีการบูรณาการการทำงานร่วมกันทุกภาคส่วนทั้งกองกำลังของฝ่ายปกครอง สิงห์ไฟ อาสาดับไฟกรมป่าไม้ กองกำลังกองทัพ เข้ามาเสริมกำลังด้วย สำหรับความยากในการดับไฟที่อำเภอดอยเต่า คือเป็นอำเภอที่มีพื้นที่ป่าค่อนข้างมากและการเข้าถึงพื้นที่ที่เกิดไฟในแต่ละครั้งนั้นเป็นไปด้วยความยากลำบาก ต้องนั่งรถและเดินเท้าต่ออีกหลายกิโลเมตร บางจุดดูเหมือนจะอยู่ใกล้แต่พอเข้าไปในพื้นที่จริงนั้นก็อาจใช้เวลานานหลายชั่วโมง จึงมีการจัดชุดออกลาดตระเวนทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จุดตรวจจุดกัด จุดสังเกตการบนที่สูง หน่วยซุ่มในป่าคอยดูผู้ที่จะมาลักลอบเผาป่า ตลอด 24 ชั่วโมง ควบคู่กับการรับแจ้งจุดความร้อนจากดาวเทียม เพื่อจะได้ทราบจุดที่เกิดไฟไหม้และเข้าไปดับให้ได้โดยเร็วที่สุด

.


ขณะที่นายดุสิต พงศาพิพัฒน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ ก็ได้เปิดเผยเพิ่มเติมอีกว่า พื้นที่ 5 อำเภอโซนใต้ของเชียงใหม่ โดยเฉพาะอำเภอดอยเต่า ฮอด อมก๋อย จอมทอง และแม่แจ่ม เป็นจุดสำคัญที่มักจะมีไฟเกิดขึ้นก่อน สิ่งที่ทีมเชียงใหม่ให้ความสำคัญคือการเติมกำลังและสับเปลี่ยนกำลังเพื่อไม่ให้ผู้ปฏิบัติงานจริงหน้างานหมดแรงหมดกำลังใจ รวมถึงความปลอดภัยในการทำงาน และการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังกับผู้ที่ลักลอบเผาป่า เพื่ออยากให้เชียงใหม่ก้าวไปสู่สังคมที่ไม่มีการเผา ยืนยันว่าจะทำทุกวิถีทางเพื่อลเการเกิดไฟป่า เกิดฝุ่น PM 2.5 ให้น้อยที่สุด และให้การรักษาอากาศสะอาดเป็นวาระสำคัญของจังหวัดเชียงใหม่

.


ทั้งนี้ นายสุข ปู่ไข่ อาสาดับไฟป่า ได้เล่าว่า ตนได้อยู่ปฏิบัติงานมาตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์แล้ว และเป็นคนที่อาสาเข้ามาเป็นทีมดับไฟป่าเอง ยอมรับว่าการเข้าพื้นที่แต่ละครั้งเป็นไปด้วยความยากลำบากจริง บางครั้งต้องกินนอนอยู่ในป่าเพราะว่าการเดินทางเข้าพื้นที่ต้องใช้เวลานาน แต่ตนก็ภูมิใจในหน้าที่ที่รับผิดชอบอยู่ในขณะนี้ ไม่ย่อท้อต่อการทำงาน อีกทั้งมีกำลังใจและได้รับความเข้าใจจากทางครอบครัวเป็นอย่างดีซึ่งครอบครัวก็เป็นอีกหนึ่งกำลังที่คอยอยู่เบื้องหลังการทำงาน ก่อนออกบ้านทุกครั้งภรรยาก็มักจะห่อข้าวให้มากินระหว่างวันอยู่เสมอ อย่างไรก็ตามขอฝากไปยังคนที่จุดไฟในป่าว่าขอให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าว เพราะหากมีคนจุดไฟเพียง 1 คน อีกหลายชีวิตต้องคอยมาดับอย่างเหน็ดเหนื่อย






 สวัสดิ์ จันทร์เป็ง News24เชียงใหม่ ข่าว 

แสดงความคิดเห็น