วันนี้ 31 ธ.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายยุทธพงค์ ดำศรีสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า เวลา 01.00 น.วันนี้ 31 ธ.ค.67 ตนได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบบุคคลต้องสงสัยมีพฤติกรรมเข้าไปล่าสัตว์ป่า จึงไสั่งการให้เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ทภ.3 (โป่งพุร้อน) และเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ทภ.2 (ไม้ยักษ์) ร่วมกันออกปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ตามที่ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีรายดังกล่าว จนกระทั่งพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์ออกมาจากป่าในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จึงได้กระจายกำลังเพื่อตรวจสอบ เมื่อระยะใกล้ได้เห็นแสงรถจักรยานยนต์ขับออกจากเส้นทางดังกล่าว พบบุคคลเป็นชาย 1 คน ขับรถออกมามีลักษณะน่าสงสัย โดยด้านหน้ารถจักรยานยนต์มีการบรรทุกสิ่งของบางอย่าง เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวและทำการตรวจค้น ทราบชื่อคนขับคือนายโมอ่อง ไม่มีนามสกุลอายุ 30 ปี เชื้อชาติกระเหรี่ยง อาศัยอยู่หมู่ที่ 5 ตำบลห้วยเขย่ง อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี จากการตรวจสอบผลปรากฏ อุปกรณ์ที่ใช้ทำผิดกฎหมาย ประกอบด้วย กระสอบปุ๋ยสีฟ้า จำนวน 3 ใบ มีเลือดสดไหลออกมาจากกระสอบและมีกลิ่นคาวเลือด วางอยู่บริเวณด้านหน้าคนขับของจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวห10I สีขาวแดง หมายเลขทะเบียน 1 กม 3687 กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่จึงได้สอบถามนายโมอ่องฯ ว่าของภายในกระสอบฯคืออะไร
นายโมอ่องฯ ได้แจ้งว่าเป็นซากเลียงผาที่ตนได้ไปล่ามาจากเขตอุทยานแห่งชาติ เมื่อเจ้าหน้าได้เปิดออกมาตรวจสอบปรากฏว่าเป็นซากเลียงผาที่ถูกชำแหละออกมาเป็นส่วนๆและแยกส่วนเนื้อ ขา หัว และเครื่องในถูกบรรจุอยู่ในถุงปุ๋ยสีฟ้าจำนวน 3 ใบ ชั่งน้ำหนักรวมได้ 73 กิโลกรัม
คณะพนักงานเจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมตัวนายโมอ่อง ไม่มีนามสกุล พร้อมตรวจยึดของกลางและอุปกรณ์การกระทำผิดจำนวน 6 รายการ ประกิบด้วย 1. ซากเลียงผา จำนวน 1 ตัว น้ำหนักรวม 73 กิโลกรัม 2. ปืนยาวบรรจุปาก (ปืนแก๊ป) 1 กระบอก 3. จักรยานยนต์ ยี่ห้อ Handa รุ่น Wave 110I สีขาวแดง แผ่นป้ายทะเบียนหลายเลข 1 กม 3687 จำนวน 1 คัน 4. มีเหน็บ จำนวน 1 เล่ม 5. ไฟฉายคาดหัว จำนวน 1 อัน และ 6. กระสอบปุ๋ยสีฟ้า จำนวน 3 ใบ
จากนั้นจึงจัดทำบันทึกเรื่องราวพร้อมรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องนำตัวผู้กระทำผิดส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรทองผาภูมิ อำเภอทองผาภูมิ ดำเนินคดีตามกฎหมายตามต่อไป
////////////////////////////
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์
แสดงความคิดเห็น