นนทบุรี​ “หมอขวัญชัย“ เผย​รัฐเตรียมเพิ่มงบบัตรทอง​ นำสมุนไพรไทยใช้รักษาผู้ป่วยในโรงพยาบาล​ แนะเกษตรกรหันมาขายสมุนไพรไทยผ่าน Social Media ได้กำไรเอง

     วันที่ 9 พ.ย. 67 ที่วิสาหกิจชุมชน Thai Herb Center​s  ซ.ไทรม้า 7 ต.ไทรม้า อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี ซึ่งในวันนี้จัดให้มีกิจกรรม “สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ สู่ชุมชน​ครั้งที่​ 1” ที่จัดขึ้นโดยวิสาหกิจชุมชน Thai Herb Center​s และกรมการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข​ ปรากฏว่ามีประชาชนจำนวนมากเข้าร่วมเรียนรู้การผลิต ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรไทย และการขายออกสู่ตลาดในช่องทาง Social Media



     โดยมีนายแพทย์ขวัญชัย​ วิศิษฐานนท์​ ที่ปรึกษาโครงการและอดีตรองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทย นายธวัช​ จรุงพิรวงศ์ ประธานวิสาหกิจชุมชน Thai Herb Center​s และที่ปรึกษาสถาบันการแพทย์แผนไทย​ ร่วมด้วยดร.ปรเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ หรือ ดร.แก้ว ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาอัยการจังหวัดนนทบุรี , ประธานกิตติมศักดิ์ กต.ตร.จังหวัดนนทบุรี และ ผู้ก่อตั้งเพจ “ดร.แก้วช่วยได้” ขึ้นพูดให้ความรู้กับประชาชนเกษตรกร ที่เห็นความสำคัญของสมุนไพร



     โดย​นายแพทย์ขวัญชัย เผยว่า​ ในประเทศไทยมีพืชสมุนไพรจำนวนมากและมีสรรพคุณทางยาที่ดี ซึ่งในช่วงสถานการณ์โควิด 19 ที่ผ่านมาจะเห็นได้ชัดว่า ในบ้านของเราเองนั้นสามารถผลิตยา รักษาโควิด 19 จากฟ้าทะลายโจรได้เอง และยังได้รับความนิยมในต่างประเทศด้วย โดยภาครัฐมีนโยบายที่จะเพิ่มงบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติจาก 900 ล้านบาท เป็น 1,500 ล้านบาท เพราะจะมีการซื้อสมุนไพรเข้ามาบรรจุเป็นบัญชียาหลัก และใช้รักษาผู้ป่วยในโรงพยาบาล ลดการนำเข้ายาจะต่างประเทศ​ และใช้ยาสมุนไพรบางชนิดแทน ที่พบบ่อยเลยคือ ขมิ้นชัน และฟ้าทะลายโจร​ 



     นายธวัช​ กล่าวว่า การจัดทำการอบรมในครั้งนี้เน้นสำคัญ ให้เกษตรกรหรือผู้ที่สนใจพืชสมุนไพร ได้ปลูกวัตถุดิบและ ผลิตภัณฑ์สมุนไพรอย่างมีคุณภาพ และสามารถจำหน่ายผ่านทางโซเชียล โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง เพื่อส่งเสริมอาชีพและรายได้​



     ด้านดร.ปรเมศร์ หรือ ดร.แก้ว กล่าวว่า อยากเชิญชวนให้ประชาชนคนไทยและเกษตรกรหันมาปลูกพืชสมุนไพรไทย​ ทั้งใช้กินเองและขายเป็นวัตถุดิบ โดยเชื่อว่าจะเป็นการสร้างรายได้อีกทางหนึ่ง เพราะกำลังเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งไทยและต่างประเทศ และอยากให้ช่วยกันอุดหนุน ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย​ อย่างเช่น ตนเองเมื่อเวลาไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ หรือลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน ก็จะพบผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรไทยไปเยี่ยมเยียนและแจกชาวบ้าน ซึ่งหลายคนให้การตอบรับเป็นอย่างดี ถ้าเป็นไปได้อยากให้มีการส่งเสริม กระเช้าสมุนไพรเป็นของขวัญในเทศกาลต่างๆ เช่น เทศกาลปีใหม่

แสดงความคิดเห็น