วันนี้ 15 พฤศจิกายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ณ เรือนจำจังหวัดกาญจนบุรี พลอากาศเอก สมคิด สุขบาง กรมวังผู้ใหญ่ประจำพระองค์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และรองประธานคณะกรรมการกองทุนกําลังใจฯ ติดตามการดำเนินงานตามโครงการกำลังใจ ในพระดำริพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ณ จังหวัดกาญจนบุรี โดยมี นายรณภพ เวียงสิมมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายสนธยา สิงหรา ณ อยุธยา ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษพัทยา รักษาราชการแทนผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดกาญจนบุรี หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเจ้าของสถานประกอบการ คนต้นแบบ ร่วมต้อนรับและเข้าร่วมประชุมฯ เพื่อรับฟังการนำเสนอความคืบหน้าการดำเนินงานในโครงการกำลังใจ ในพระดำริพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา จากการติดตามงานในปี 2566



 จากนั้นพลอากาศเอก สมคิด สุขบาง กรมวังผู้ใหญ่ประจำพระองค์ฯ และคณะได้ตรวจเยี่ยมภายในเรือนจำแดนหญิง พร้อมทั้งได้มีผู้แทนพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มาให้ความรู้ในเรื่องสิทธิประโยชน์ของผู้ต้องขัง เพื่อเตรียมความพร้อมให้ผู้ต้องขังสามารถกลับคืนสู่สังคมได้หลังพ้นโทษ ซึ่งการเตรียมความพร้อมที่ดีต้องเริ่มตั้งแต่ตอนเข้าสู่เรือนจำ ก่อนพ้นโทษและก่อนการปล่อยตัวผู้ต้องขังออกไปใช้ชีวิตในสังคม ดำเนินการจัดสวัสดิการเพื่อดูแลทั้งสุขภาพกาย สุขภาพจิต การแก้ไข บำบัด ฟื้นฟู การศึกษาและพัฒนาอาชีพ และการเตรียมความพร้อมของครอบครัวและชุมชน การทำความเข้าใจกับผู้เสียหาย และการช่วยเหลือด้านที่พัก อีกทั้งผู้แทนด้านแรงงาน และผู้แทนจากสถานประกอบการพูดเรื่องตำแหน่งงาน ซึ่งมีหลายสถานประกอบการที่พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ต้องขังไปประกอบอาชีพได้หลังจากพ้นโทษ และหากมีผู้ต้องขังที่ต้องการความช่วยเหลือในการหางานทำ สามารถติดต่อได้ที่แรงงานจังหวัดกาญจนบุรี และสถานประกอบการดังกล่าวได้ จากนั้นได้มีตัวแทนจาก คนต้นแบบ จำนวน 3 ราย มากล่าวให้กำลังใจและรวมไปถึงการออกไปดำเนินชีวิตข้างนอก ซึ่งตนเองนำความรู้ที่ได้จากการฝึกอาชีพภายในเรือนจำ นำไปประกอบอาชีพจริงและบางรายสามารถเปิดกิจการของตนเองได้อีกด้วย 



 ทั้งนี้ นายรณภพ เวียงสิมมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวสร้างความมั่นใจให้ผู้ต้องขังที่กำลังจะพ้นโทษ “กำลังใจ ถือเป็นยาชั้นดีในการกลับตัว การเตรียมความพร้อมให้ผู้ต้องขังสามารถกลับคืนสู่สังคมได้หลังพ้นโทษ เป็นปัจจัยสำคัญในการลดการกระทำผิดซ้ำและการรับโทษซ้ำในเรือนจำ ความผิดพลาดไม่ได้นำมาซึ่งความผิดหวังเสมอไป เพราะในบางครั้ง ความผิดพลาด ได้สอนให้เรารู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ผิด และสิ่งไหนคือสิ่งที่เราไม่ควรทำ และจำไว้ว่าบางครั้ง หากเราไม่เคยทำผิดมาก่อน เราจะไม่รู้เลยว่าอะไรคือ สิ่งที่ถูกต้อง และสามารถทำได้ เราจึงควรจดจำความผิดพลาดไว้เป็นบทเรียน เพื่อที่เราดำเนินชีวิตต่อไปให้ดียิ่งขึ้น”



 สำหรับโครงการกำลังใจฯ เป็นโครงการที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงริเริ่มเพื่อประทานความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ต้องการโอกาสในสังคมไทย ด้วยทรงดำริว่า ทุกคนในสังคมจะอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข ก็ต่อเมื่อรู้จักรักษาสิทธิของตน โดยไม่สร้างความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น กระบวนการยุติธรรมเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้ทุกคนเคารพสิทธิของผู้อื่น ซึ่งเมื่อกระบวนการยุติธรรมดำเนินไปจนถึงที่สุดแล้ว ผู้ที่ได้รับผลทุกฝ่ายในสังคม ก็น่าจะได้มีโอกาสอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขอีกครั้งหนึ่ง แต่กระนั้นในบางครั้ง กลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้ต้องขัง กลุ่มผู้ถูกคุมประพฤติ หรือผู้ที่เป็นจำเลย กลับมิได้รับโอกาสเท่าที่ควร ในการที่จะกลับมาเป็นส่วนหนึ่งของสังคมส่วนรวม ส่งผลให้บุคคลเหล่านี้ขาดโอกาสที่จะดำเนินชีวิตดังที่ควร 



จากนั้นในช่วงบ่าย กรมวังผู้ใหญ่ประจำพระองค์ 908 และคณะเดินทางไปยัง มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี เพื่อรับฟังการนำเสนอความร่วมมือระหว่างเรือนจำจังหวัดกาญจนบุรี กับทางมหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอเมืองกาญจนบุรี วิทยาลัยอาชีวศึกษากาญจนบุรี และวิทยาลัยการอาชีพแม่น้ำแคว หลังจากนั้นเดินทางไปเยี่ยมบ้านคนต้นแบบ ที่บริเวณอำเภอพนมทวนอีกด้วย




   /////////////////////////////////////////////////////////

ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์

แสดงความคิดเห็น