เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 12 ตุลาคม 2567 โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.ภูมิชาย พันธ์กล้า ผกก.ตชด.32 ,พ.ต.อ.ณัทกฤช น้อยคำปัน ผกก.4 บก.ปทส.,พ.ต.ท.พิเชษฐ์ หมายดี ผบ.ร้อย ตชด.324, ร.ต.อ.อดุลย์ ไชยยา รอง ผบ.ร้อย ตชด.324 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิการเคลื่อนที่เร็ว ร้อย ตชด.324 , เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นน.14 (แม่สาคร) , ร.ต.อ.ถวิล สายอินต๊ะ รอง สว.กก.4 บก.ปทส. พร้อมจนท.ตร.กก.4 บก.ปทส. จ.น่าน , เจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติการพิเศษป่าไม้ สจป.ที่ 3 (สาขาแพร่) , ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้น่าน ได้ร่วมกันตรวจยึด 1. รถยนต์กระบะบรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้อ โตโยต้าวีโก้สีขาว ทะเบียน บธ 921 น่าน 2.ไม้ชิงชันแปรรูป จำนวน 13 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร 1.844 ลบ.ม. คิดเป็นค่าเสียหายของรัฐเป็นเงิน 553,200 บาท สถานที่เกิดเหตุ บริเวณถนนลำลองเข้าพื้นที่การเกษตร พื้นที่บ้านปางชมพู หมู่ 8 ต.อ่ายนาไลย อ.เวียงสา จ.น่าน ซึ่งทางจนท.ชุดจับกุมฯ ได้สนธิกำลังได้ร่วมกันออกตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในพื้นที่ ต.ยาบหัวนา อ.เวียงสา จ.น่าน สืบทราบว่า จะมีกลุ่มบุคคลใช้รถกระบะบรรทุกแบบตู้ทึบสีขาว ชักลากไม้ผิดกฎหมายออกจากพื้นที่บ้านนาก้า-ฮากฮาน โดยเจ้าหน้าที่ได้วางกำลังทำการซุ่มอำพรางอยู่ตามเส้นทางบ้านฝั่งหมิ่น ได้มีรถยนต์กระบะบรรทุก ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น วีโก้สีขาว ใส่หลังคาแบบตู้ทึบที่กระบะด้านท้ายขับผ่านจุดที่เจ้าหน้าที่มุ่งหน้าไปทางหมู่บ้านฮากฮาน - บ้านนาก้า ต่อมารถยนต์คันดังกล่าวได้ขับมาตามเส้นทางบ้านห้วยหลอด มุ่งหน้าไปทางบ้านฝั่งหมิ่น ทางจนท.ชุดจับกุมที่อยู่บริเวณทางเข้าบ้านนาก้า พื้นที่บ้านฝั่งหมิ่น จึงได้เรียกให้หยุดเพื่อของตรวจค้นแต่รถยนต์คันดังกล่าว คนขับพยายามขับรถหลบหนี จนท. ไล่กวดติดตามมาตามเส้นทางบ้านฝั่งหมิ่น-ปางชมพู โดยได้เลี้ยวเข้าทางลำลองเส้นทางเข้าพื้นที่การเกษตรบ้านปางชมพู ในขณะที่ไล่ติดตามได้เห็นบริเวณฝาท้ายกระบะมีการบรรทุกไม้แปรรูปอยู่เต็มท้ายกระบะ เมื่อขับมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุได้ตกหลุมเสียหลักทำให้ล้อยางหลังด้านขวาและด้านซ้ายแตกทั้งสองข้าง ส่งผลให้รถยนต์คันดังกล่าวไม่สามารถขับขี่ต่อไปได้ คนในรถได้วิ่งหลบหนี เจ้าหน้าที่ได้วิ่งไล่ติดตามแต่ผู้ต้องสงสัยอาศัยความมืดและความชำนาญในพื้นที่หลบหนีการจับกุมไปได้ เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าวพบตรวจสอบที่ด้านท้ายกระบะ พบไม้ชิงชันแปรรูปจำนวนหนึ่ง ตรวจนับได้จำนวน 13 แผ่น/เหลี่ยม ตรวจสอบที่หน้าตัดของไม้ชิงชันทั้งสี่ด้านพบว่าถูกแปรรูปด้วยเลื่อยโซ่ยนต์ สังเกตได้จากที่หน้าตัดของไม้ทั้งสี่ด้านมีร่องรอยของครองเลื่อยยนต์ติดอยู่ ไม่ปรากฏรูปรอยดวงตราของทางราชการหรือเอกชนตีประทับไว้เพื่อเป็นการแสดงการอนุญาตแต่อย่างใด และไม่เคยผ่านการเป็นสิ่งปลูกสร้างหรือเครื่องใช้แต่อย่างใด ต่อมาเวลา 14.00 น.จึงได้ร่วมกันตรวจยึดไว้เป็นของกลางนำส่ง ร.ต.อ.กิตติพัฒน์ ราชภัณฑ์ พงส.สภ.เวียงสา จ.น่าน เพื่อดำเนินคดีกับ ผู้ต้องหาพร้อมพวกที่หลบหนี โดยกล่าวหาว่า กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 ฐาน ทำไม้หรือทำอันตรายด้วยประการใด ๆ แก่ไม้หวงห้ามโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” -มีไม้หวงห้าม(ชิงชัน)แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และรับไว้ด้วยประการใด ซ่อนเร้น จำหน่ายหรือช่วยพาเอาไปเสียให้พ้นซึ่งไม้หรือของป่าซึ่งตนรู้อยู่แล้วว่าเป็นไม้หรือของป่าที่มีผู้ใดได้มาโดยการกระทำผิดต่อบทแห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ฯ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ธีรพงษ์ ธงออน/แพร่ 061-595-5297
แสดงความคิดเห็น