วันที่7 พ.ย.68 เวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุผ่านศูนย์วิทยุ สน. พระโขนง มีเหตุวิ่งราวทรัพย์ ร้านทองภายในห้างย่านอ่อนนุช พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ ประดับไทย ผกก.สน.พระโขนง จึงสั่งการให้พ.ต.ท.ชวลิต ตรีหิรัญ รอง ผกก.สส.สน.พระโขนง และ พ.ต.ท.กำพล กลั่นกสิกรณ์ รอง ผกก.ป.สน.พระโขนง พร้อมด้วยพ.ต.ท.พิพัฒน์ เทพินสว.สส.สน.พระโขนง,พ.ต.ท.ชัยณรงค์ รักสนอง สวป.สน.พระโขนง พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนและฝ่ายป้องกันและปราบปราม ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุ

  ต่อมาเวลา13.20 น. สามารถจับกุมนาย ชานน หรือต๊อบ อายุ 26 ปิ ผู้ก่อเหตุพร้อมด้วยของกลาง

1.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ชนิดเกล็ดใส บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสชนิดกด ปิดดึงเปิด จำนวน 1 ถุง น้ำหนัก ชั่งรวมถุงประมาณ 0.66 กรัม (ได้ชั่งต่อหน้าผู้ต้องหา) โดยถุงเปล่าหนัก 0.26 กรัม น้ำหนักเฉพาะตัวยาไอซ์หนัก 0.40 กรัม

2.แหวนทองคำ น้ำหนักประมาณ 15.2 กรัม จำนวน 1 วง

3.เอกสารการรับชื่อทองคำเก่า ของบริษัท ห้างทองเอกทองคำเยาวราชโกลด์ จำกัด (มีชื่อนายสันติ ฮังนนท์ เป็นผู้ขายมียอดเงิน จำนวน 57,000 บาท)

   ทั้งนี้หลังจากได้รับแจ้งเหตุ วิ่งราวทรัพย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุสอบถามพยานผู้เห็นเหตุการณ์พร้อมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดเส้นทางหลบหนี ทราบว่าผู้ก่อเหตุ เป็นชายไม่ทราบชื่อสกุลจริง รูปร่างผอมสูง มีรอยสักทั้งตัว ผิวดำแดง เมื่อดูจากฐานข้อมูลประวัติบุคคลซึ่งได้ทำไว้ของฝ่ายสืบสวน สน.พระโขนง ทราบว่าผู้ก่อเหตุ ชื่อนาย ชานน หรือต๊อบ เคร่งธรรมกิจ อายุ 26 ปี  หลังก่อเหตุได้วิ่งหลบหนีมุ่งหน้าแยกอ่อนนุช เลี้ยวซ้ายจนเดินไปถึงบีทีเอสอ่อนนุช ขึ้นไปบีทีเอสอ่อนนุช ทะลุโลตัสสุขุมวิท 50  เพื่อไปขายทอง เมื่อร้านทองภายในโลตัสสุขุมวิท 50 ไม่รับซื้อ ผู้ก่อเหตุได้วิ่งหลบหนีมุ่งหน้าใต้สะพานพระโขนง
 ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปตรวจสอบบริเวณใต้สะพานพระโขนง  จากการสอบถามประชาชนที่อยู่บริเวณนั้นแจ้งว่า  ผู้ก่อเหตุได้เดินไปมุ่งหน้าถนนอ่อนนุช  จึงได้ติดตามไปเมื่อไปถึงปากซอยอ่อนนุช 1/1 ถนนอ่อนนุช พบผู้ก่อเหตุจึงได้ควบคุมตัวไว้ได้ จึงได้ทำการตรวจค้น พบของกลาง เป็น ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) จำนวน 1 ถุง
 จากการสอบสวนนาย ชานน หรือต๊อบ ให้การรับสารภาพว่าเสพยาบ้าจนหลอน และก่อเหตุเพื่อนำเงินไปใช้หนี้ยา หลังขายทองได้ 57,000 บาท แบ่งให้นายสันติ เพื่อนร่วมก่อเหตุ 3,000 บาท ก่อนนำเงินที่เหลือไปใช้หนี้ และให้การว่าแหวนทอง ได้นำไปขายที่ร้านค้าทองปากซอยสุขุมวิท 71 จึงได้เดินทางไปขยายผลยังสถานที่ดังกล่าว ทางร้านแจ้งว่าผู้ก่อเหตุได้นำแหวนทองมาขายจริงจึงได้ตรวจยึดแหวนทองไว้เป็นของกลาง พร้อมกับเอกสารการรับซื้อทองคำเก่า จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบรับสารภาพที่ร้านทองเยาวราชกรุงเทพ ชั้น2 บิ๊กซีอ่อนนุช แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กทม.

  เบื้องต้น ฝ่ายสืบสวน สน.พระโขนงยึดเงินคืนจากผู้รับชำระหนี้ได้บางส่วนและได้แจ้งข้อกล่าวหา ข้อหา “วิ่งราวทรัพย์และมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาไอช์) ไว้ในครอบครองโดยได้รับอนุญาตและเสพยาเสพติดให้โทษประเกท 1 เมทแอมเฟตามีน โดยผิดกฎหมาย”หลังจากนั้นจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

แสดงความคิดเห็น