เป็นที่น่าสังเกตว่าธนาคารกรุงไทย สาขาศรีบุญเรือง มีประชาชนที่เดินทางมาจากอำเภอสีชมพู และ อำเภอหนองนาคำ จังหวัดขอนแก่น ที่ไม่มีธนาคารกรุงไทย สาขาตั้งอยู่ และอำเภอผาขาว จังหวัดเลย ก็ไม่มีเช่นกัน ในขณะที่อำเภอโนนสัง จังหวัดหนองบัวลำภู ก็ไม่มีธนาคารกรุงไทย สาขาเช่นเดียวกัน ทำให้ประชาชนในเขตใกล้เคียงต้องเดินทางมายืนยันตัวตนกับธนาคารกรุงไทย สาขาศรีบุญเรือง ขณะที่มีชาวบ้านที่มารอการยืนยันตนเองกับธนาคารกรุงไทย สาขาศรีบุญเรือง บางกลุ่มต้องมาตั้งแต่ตีสอง ยันตีสี่ก็มี
ในขณะที่ธนาคารกรุงไทย สาขาศรีบุญเรือง ตั้งอยู่ในเส้นทางหลัก การจราจรคับคั่งเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายขณะข้ามถนนไปมา ประกอบธนาคารกรุงไทยมีตู้เอทีเอ็มสำหรับให้บริการฝากถอนเพียง 3 ตู้และในวันที่ผ่านมาจนถึงวันนี้มี 1 ตู้งดให้บริการรอการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ ปล่อยให้ชาวบ้านยืนรอเข้าคิวนานพอสมควร ในขณะที่มีชาวบ้านมาใช้บริการยืนยันตัวตนต้องพบกับความสมหวังและผิดหวังกันไป
สำหรับปัญหาที่พบของชาวบ้านที่มาใช้บริการในวันนี้ อันเนื่องมาจากตู้เอทีเอ็มมีไม่เพียงกับการให้บริการ พนักงานของธนาคารมีน้อยไม่สามารถที่จะมาแนะนำที่หน้าตู้เอทีเอ็มได้ ประกอบกับผู้มายืนยันตนเองมีแต่ผู้สูงอายุ ความรู้ความเข้าใจในระบบมีน้อย หากลูกหลานไม่ช่วยเป็นธุระ ขณะที่โทรศัพท์ใช้ก็เป็นรุ่นเก่าไม่ทันสมัย อันนี้ปัญหาที่พบในการเข้าร่วมโครงการทุกๆโครงการของรัฐบาลที่ผ่านมา นี่คือปัญหาที่พบเห็นซึ่งเชื่อว่าทุกที่จะมีปัญหาที่คล้ายคลึงกัน
และในวันที่ 15 ตุลาคม 2568 ที่บริเวณสวนสุขภาพเทศบาลตำบลโนนสัง อำเภอโนนสัง จังหวัดหนองบัวลำภู ได้มีการจัดกิจกรรม Kick off โครงการ "คนละครึ่ง พลัส" ซึ่งถือเป็นวันแรกที่เปิดให้ร้านค้าและผู้ประกอบการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ให้สมัครเข้าร่วมโครงการ บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างคึกคัก ผู้ประกอบการร้านค้าจากหลากหลายประเภทสินค้าได้เดินทางมาร่วมกิจกรรมและลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก โดยมีบูธบริการจากที่ทำการปกครองจังหวัดหนองบัวลำภู ร่วมกับธนาคารกรุงไทย มาคอยให้บริการอำนวยความสะดวกในการสมัครเข้าร่วมโครงการ
โดยมี นางสาวอรอาภา โล่ห์วีระ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู เป็นประธานเปิดกิจกรรม พร้อมด้วยปลัดจังหวัดหนองบัวลำภู นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองบัวลำภู คลังจังหวัดหนองบัวลำภู นายอำเภอโนนสัง และผู้แทนหัวหน้าส่วนราชการร่วมโครงการ หลังจากนั้นได้มอบป้ายสัญลักษณ์ร้านค้า "คนละครึ่ง พลัส" ให้แก่ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อเป็นการยืนยันสิทธิ์และเตรียมพร้อมสำหรับการใช้จ่ายตามมาตรการของรัฐบาลการตอบรับอย่างล้นหลามของผู้ประกอบการในครั้งนี้
ที่แสดงให้เห็นถึงความตื่นตัวและความพร้อมของจังหวัดหนองบัวลำภูในการเข้าร่วมโครงการสำคัญของรัฐบาล ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้เศรษฐกิจในพื้นที่กลับมาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว โครงการ "คนละครึ่ง พลัส" เป็นมาตรการที่รัฐบาลมุ่งหวังจะช่วยเหลือประชาชนในการลดภาระค่าใช้จ่าย และขณะเดียวกันก็เป็นการอัดฉีดเม็ดเงินสู่ระบบเศรษฐกิจฐานรากในจังหวัด ให้เกิดการหมุนเวียนและสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการท้องถิ่น โดยเปิดรับลงทะเบียนร้านค้าตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม ถึงวันที่ 19 ธันวาคม 2568
และจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม ถึงวันที่ 26 ตุลาคม 2568 ตั้งแต่ (เวลา 06:00-22:00น.) ทั้งนี้ ประชาชนผู้ได้รับสิทธิสามารถใช้สิทธิโครงการได้ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568 (เวลา 06:00-23:00น.) โดยสามารถซื้ออาหาร เครื่องดื่ม สินค้า และบริการที่กำหนดจากร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ นอกจากนี้ สามารถใช้สิทธิซื้ออาหารหรือเครื่องดื่มผ่านผู้ให้บริการระบบขนส่งอาหาร (Food Delivery Platform) ที่ได้รับอนุมัติให้เข้าร่วมโครงการฯ ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ได้ตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568 (เวลา 06:00-21:00 น.)สุภัชรกานต์ แก้วสิงห์ภาพและข่าว /ใบเฟิน ศรีวิสุทธิชัย รายงานข่าวจากจังหวัดหนองบัวลำภู
แสดงความคิดเห็น