(6 ต.ค.68)  นายเสกสรร   จันวงษา    นายอำเภอพุทไธสง  จังหวัดบุรีรัมย์    ได้มอบหมายให้ นายภูบดี   จินะเสนา   ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง อำเภอพุทไธสง  และกำนัน  ผู้ใหญ่บ้าน   ลงพื้นที่สำรวจบ้านเรือน   ถนน  และพื้นที่การเกษตร ที่ได้รับผลกระทบจากมวลน้ำที่ไหลมาจากจังหวัดนครราชสีมา   และจังหวัดขอนแก่น เพื่อเตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วมฉับพลัน และเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย    

ซึ่งจากข้อมูลรายงานมีน้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่นาข้าวของเกษตรกรใน อ.พุทไธสง แล้ว 4 ตำบล   จากทั้งหมด 7 ตำบล  รวมพื้นที่นาข้าวที่ถูกน้ำท่วมแล้วกว่า 8,400 ไร่ เกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อน  793  ครัวเรือน

เบื้องต้นทางอำเภอได้ทำเรื่องรายงานสถานการณ์อุทกภัยไปยังจังหวัดแล้ว    เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบหลักเกณฑ์อย่างเร่งด่วน    ทั้งนี้ยังมีรายงานน้ำเอ่อท่วมถนนทางเข้าหมู่บ้านแล้วหลายหมู่บ้าน   ทำให้ประชาชนสัญจรเข้า-ออกลำบาก    และยังมีหมู่บ้านที่สุ่มเสี่ยงจะถูกน้ำท่วมบ้านเรือน 3 หมู่บ้าน  คือ บ้านดอนตูม  บ้านส้มกบ  และบ้านเพียแก้ว  เพราะเป็นหมู่บ้านที่อยู่ติดริมน้ำ   ซึ่งนายอำเภอพุทไธสง  ก็ได้ให้กำนัน  ผู้ใหญ่บ้าน  ประกาศแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย เก็บทรัพย์สิน   เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์ของใช้ที่เสี่ยงจะเสียหายขึ้นสู่ที่สูงไว้แล้ว   เพื่อเตรียมพร้อมรับมือหาเกิดภาวะน้ำท่วมฉับพลัน
นายเสกสรร   จันวงษา    นายอำเภอพุทไธสง   กล่าวว่า   อำเภอพุทไธสง  เป็นพื้นที่รับน้ำจากทั้งนครราชสีมา และ จ.ขอนแก่น   ซึ่งมีแม่น้ำ 3 สายที่จะไหลมารวมกัน  ทั้งลำน้ำมูล  ลำสะแทด  และลำพังชู   ทำให้ประสบปัญหาน้ำท่วมเกือบทุกปี   ซึ่งขณะนี้ก็มีมวลน้ำจาก จ.นครราชสีมา  ไหลหลากเข้ามาท่วมพื้นที่นาข้าวของเกษตรกรใน อ.พุทไธสง แล้ว 4 ตำบล  จากทั้งหมด 7 ตำบล  รวมพื้นที่นาข้าวที่ถูกน้ำท่วมแล้วกว่า 8,400 ไร่ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน 793 ครัวเรือน และมีหมู่บ้านที่อยู่ติดริมลำน้ำเสี่ยงถูกน้ำท่วมบ้านเรือน 3 – 4 หมู่บ้าน  ก็ได้ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยงเก็บของขึ้นที่สูงไว้แล้ว   เพื่อลดผลกระทบและความเสียหายหากเกิดน้ำท่วมฉับพลัน
เพราะคาดการณ์ว่ายังจะมีมวลน้ำทั้งจากนครราชสีมา และ จ.ขอนแก่น  ที่จะไหลมาสมทบเพิ่มเติมอีก  รวมทั้งจากการพยากรณ์อากาศของกรมอุตุฯ ที่คาดว่าจะมีพายุมาอีกระลอกด้วย     ซึ่งทางอำเภอก็ได้มีแผนในการรับมือ  ทั้งการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ   ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเตรียมพร้อมทั้งเครื่องจักร  อุปกรณ์   และกำลังพล  เพื่อเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที








   สุรชัย    พิรักษา / บุรีรัมย์
 

แสดงความคิดเห็น