ตั๊กแตนปาทังก้า ถือเป็นศัตรูพืชที่เป็นปัญหาของเกษตรกรทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยของเราก็เช่นกัน ในอดีตมีแผนปูพรมกวาดล้างฉีดพ่นยาฆ่าแมลงเพื่อกำจัดตั๊กแตนปาทังก้า แต่ในวิกฤตยังมีโอกาสเสมอ เกษตรกรไทยได้เรียนรู้ว่าแท้จริงแล้วอาวุธที่ดีที่สุด ในการจัดการกับตั๊กแตนตัวร้ายก็คือน้ำมันร้อนๆ ซอสปรุงรสนั่นเอง
วันนี้เราจะไปพูดคุยกับหญิงแกร่งที่เป็นต้นแบบและนักต่อสู้เพื่อชีวิตอีกคน ไปกันที่สวน “มาคุณ “ ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 24/1 หมู่ที่ 5 บ้านหนองแตง ต.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู โทรศัพท์ 064-869-5491 โดยสวนมาคุณ ได้ไช้พื้นที่ 9 ไร่ ได้ถูกรังสรรค์แบ่งปันพื้นที่ ทำการเกษตรให้มีพืชพันธุ์ที่ปลูกในสวนมีหลากหลายชนิด โดย มี นางบุญมา มาคุณ อายุ 52 ปี และ นายอาดูร  มาคุณ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24/1 หมู่ที่ 5 บ้านหนองแตง ต.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู สองสามีภรรยา เป็นเจ้าของ ตั้งชื่อสวนตามสกุลของสามี
ซึ่งภายในสวน ได้จัดสรรพื้นที่เป็น สระปลา เลี้ยงปลากินพืชกินเนื้อ กบ หอยเชอรี่ หอยขม พื้นที่ส่วนบนเป็นสวนไม้ผลและพืชผัก เช่น กล้วยหอม กล้วยไข่กำแพงเพชร กล้วยน้ำว้า มะละกอ ฝรั่งพันธุ์หงเปาสือ  ส้มโอ ทุเรียน มะนาว มะพร้าวน้ำหอม อินทผาลัม ต้นคล้า หญ้าพืชอาหารตั๊กแตน เช่น หญ้าหวานอิสราเอล หญ้าเนเปียร์ ฯ และปลูกพืชผัก เช่น ผักอีนูนหรือผักสาบ ผักหวานบ้าน ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และที่สำคัญ ยังมีแมลงเศรษฐกิจที่เป็นตัวทำเงินให้เป็นอย่างดี คือ “ตั๊กแตนปาทังก้า” ในโรงเรือนขนาดใหญ่อีก 3 โรงเรือน ซึ่งใช้แรงงานในครอบครัว ตอนนี้ก็มีลูกมาช่วยอีก 1 แรง ทำให้มีหลากหลายอย่าง จะได้มีรายได้หมุนเวียน ตลอดปี
นางบุญมา  มาคุณ ย้อนเล่าชีวิตก่อนที่จะผันตัวเองมาเป็นเกษตรกร นั้น จบ.การศึกษาเพียงชั้น ป.6 ทำงานอยู่ที่ กรุงเทพมหานคร ขายเครฟญี่ปุ่น อยู่ประมาณ 10 กว่าปี พอดีช่วงนั้น พี่ชายให้มาช่วยดูแลงานก่อสร้าง ระบบพวกประปา วางระบบป้องกันอัคคีภัยในโรงงาน จากที่ไม่เคยมีความรู้ในเรื่องของการก่อสร้างมาก่อนเลย แต่ก็ได้รับแรงใจจากพี่ชายที่ บอกว่า น้องต้องทำได้ พอมาทำแล้วก็มาเรียนรู้ เรื่องของงานก่อสร้าง อ่านแบบดูแบบได้ ก็ได้ช่วยพี่ชายทำงานมาหลายปี ซึ่งบางครั้งก็ได้รับงานเอง จนมาเป็นผู้รับเหมางานก่อสร้าง ทำอยู่หลายปี ได้เงินก้อนหนึ่งมา ก็ได้มาซื้อที่ดินไว้ เมื่อประมาณ 10 กว่าปีมาแล้ว ประมาณ 300,000 บาท ตอนหลังมาแม่สามีที่จังหวัดร้อยเอ็ด ไม่สบาย ต้องมาคอยดูแล สุดท้ายจึงได้ผันชีวิต มาลงมือทำสวน
จากนั้น จึงได้เริ่มขยายเลี้ยง มาทำโรงเรือน ขนาดใหญ่หมุนเวียนกันไป  และเลี้ยงอย่างจริงจัง ซึ่งการเลี้ยง หลายอย่างก็ลองผิด ลองถูก ตายก็มียกมุ้งก็มี อย่างครั้งหนึ่งจากที่ไม่มีประสบการณ์ไปตัดหญ้ามาให้ตั๊กแตน กลัวยุงจะกัด จึงได้ทายากันยุงตามแขน ไปหอบหญ้ามาให้ตั๊กแตน ผลปรากฏว่า ตั๊กแตนตายทั้งคอกเลย นี่คือประสบการณ์ที่สอนเรา บางทีเราไม่เข้าใจ อย่างเรื่องสารเคมีกับตั๊กแตน เป็นเรื่องที่จะต้องระวังมาก หากเจอสารเคมีโดยเฉพาะที่ติดมากับหญ้าพืชอาหารของเขา มีโอกาสตายยกคอก ในเรื่องนี้ ต้องระวังเป็นพิเศษ สำหรับ ตั๊กแตนเป็น แมลงอายุสั้น อายุประมาณ 60 วัน เลี้ยงง่าย รายได้ดี ส่วนใครที่สนใจหากอยากจะมาศึกษาเรียนรู้ ก็พร้อมที่จะเปิดโอกาสให้คำแนะนำได้ฟรี ส่วนอาหารนอกจาก อาหารข้น พวก ข้าวโพดบด ถั่วเหลืองบด แล้ว ก็จะให้ อาหารหยาบพวกหญ้าต่างๆ แต่ต้องระวังเรื่องสารเคมี เราไม่สามารถเอาหญ้ามาได้จากทุกแหล่ง คนที่คิดจะเลี้ยง จะต้องทำแปลงหญ้าก่อนเป็นอันดับแรก ถ้าไปหาหญ้าใกล้กับที่เขามีการฉีดพ่นยาฆ่าหญ้า อาจจะถูกละอองยามา ตั๊กแตนก็อาจจะตายยกคอกได้
สำหรับ สภาพแวดล้อมที่เหมาะกับการเจริญเติบโตของตั๊กแตนปาทังก้า นั้น การเติบโตของตั๊กแตนจะดีมากที่สุดถ้าอยู่ในอุณหภูมิช่วง 25-35 องศาฯ อากาศถ่ายเทได้ดี  มีแสงแดดส่องถึงทั้งวันและ เฝ้าระมัดระวัง เรื่องการพ่นสารเคมี ชนิดต่างในบริเวณใกล้เคียง  ในกรณีที่มีฝนตกอาจจะเปิดไฟในโรงเรือนเพื่อลดความชื้นสะสมในโรงเรือน ส่วน อาหาร  การเตรียมอาหารให้ตั๊กแตนปาทังก้า แม้ว่า เป็นสัตว์แมลงที่เลี้ยงง่าย แค่ให้หญ้า ใบกล้วย เพียงอย่างเดียวก็เพียงพอต่อการเจริญเติบโตแล้ว ชนิดหญ้าชนิดต่าง เช่น หญ้าวานอิสราเอล หญ้าเนเปีย   แต่ในกรณีที่ไม่มีหญ้า สามารถให้อย่างอื่นแทนได้ เช่น ผักกาดหอม ฟักทอง หรือผลไม้อื่นๆเป็นต้น
ขณะที่ นายเพทาย  จรกระโทก  นายอำเภอศรีบุญเรือง ได้เดินทางมาเยี่ยมสวนแห่งนี้ ดูการเลี้ยงตั๊กแตน การนำตั๊กแตนมาทอดเป็นอาหาร ชมผลิตผลพืชผักต่างๆ จากสวน พร้อมได้เชิญชวนให้ทางสวนแห่งนี้ ได้ไปร่วมกิจกรรม นำเสนอ ผลผลิตจากสวน ในงาน มหกรรมของดีอำเภอศรีบุญเรือง เพื่อเป็นแบบอย่างให้กับ เกษตรกรรายอื่นๆ ในการเลือกเส้นทางอาชีพ สร้างเศรษฐกิจให้กับตนเอง ซึ่งถือว่า เกษตรกรรายนี้ เป็นอีกต้นแบบหนึ่ง ที่ ยืนหยัดเลี้ยงชีพได้ด้วยตนเอง ในวันนี้ถือว่า เป็นจุดเริ่มต้น เชื่อว่า ในอนาคตจะสร้างความมั่นคงให้กับอาชีพนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะว่า สิ่งที่ทำ กำลังเริ่มให้ผลผลิตตอบแทน จะเป็นอาชีพได้อย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต
นอกจากนั้นที่สวนมาคุณ ไม่ได้เพียงแค่เลี้ยงตั๊กแตน สร้างรายได้เพียงอย่างเดียว ยังมีการปลูกพืชชนิดอื่นให้ก่อเกิดรายได้เสริมหมุนเวียนกันไป เช่น ปลูกข่าแดงใหญ่ ขายทั้งหน่อและขายยกกอ กอละ 500 บาท กล้วยพันธุ์ต่างๆ ขายผลและใช้ใบมาเลี้ยงตั๊กแตน มะละกอ ฝรั่ง กบ กิโลกรัมละ 100 บาท หอยเชอรี่ขายทั้งเปลือกกิโลกรัมละ 30 บาท หอยเชอรี่แกะหัวขาย กิโลกรัมละ 80 บาท ขายต้นคล้าสำหรับนำไปทำเครื่องจักสาน เช่น กระติบข้าว ปลูกไว้ 1 ไร่ ตัดขายปีละ 2-3 ครั้ง กิโลกรัมละ 4-5 บาท หรือ ขายยกแปลง ครั้งละ 20,000 บาท ผักอีนูนหรือผักสาบ ขายทั้งลูกและผลดิบ เก็บวัน เว้นวัน จะมีรายได้ 200-300 บาท รวมทั้งพืชผักอย่างอื่นอีก ที่เก็บขายตามฤดูกาลที่มี ทำให้มีรายได้หมุนเวียนตลอดปี ซึ่งเป็นผลดีของ การทำการเกษตรผสมผสานที่อาศัยการปลูก การเลี้ยงที่หลากหลาย
นางบุญมา  มาคุณ บอกว่า การที่เลือกทำอาชีพเกษตรและทำหลายอย่างนั้น ก็ด้วยเหตุผลที่ ทำให้เรามีรายได้หมุนเวียนตลอดปี การทำอาชีพเกษตร อาจจะไม่เห็นผลในทันตา เราจะต้องใช้ความมานะ อดทน ความขยัน ตั้งใจ ใช้เวลา ในการสร้างและดูแลเขา และเมื่อเวลาผ่านไป เขาจะกลับมาดูแลเรา ทดแทนความเหน็ดเหนื่อยที่เราลงมือลงแรงไป สำหรับใครที่อยากทำอาชีพอิสระ ไม่มีใครมาเป็นนายของตัวเอง ลองมาใช้ชีวิตก้าวเดิน บนถนนสายนี้ ก็เป็นอีกหนึ่ง ที่สามารถเลี้ยงดูชีวิตได้ แถมได้อยู่กับธรรมชาติ อยู่กับครอบครัว รายได้รอบปี 300,000 – 400,0000 บาท แม้ว่า จะย่างก้าวเข้าสู่เป็นที่ 2 แต่ก็มองเห็นเส้นทางอนาคตที่สวยงามแล้ว ผลตอบแทนรายที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในอนาคต  เป็นคำบอกเล่า จากที่ เจ้าของสวนที่ บอกเล่า ประสบการณ์ให้ฟัง ให้เป็นแง่คิด มุมมอง สำหรับคนที่จะเลือกเส้นทางอาชีพ .....สนใจติดต่อสอบถามนางบุญมา  มาคุณ เจ้าของสวนมาคุณ ได้โทรศัพท์ 064-869-5491 อาจจะไม่เลิศหรูแต่ก็ดูดี มีความสุขอีกอาชีพหนึ่ง





















 สุภัชรกานต์  แก้วสิงห์ ภาพและข่าวหนองบัวลำภู

แสดงความคิดเห็น