(3 ต.ค.68) พล.ต.ต.วรายุส์   จันทร์เยี่ยม   ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์    ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ยุทธพงษ์   รอดนวล   ผู้กำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดบุรีรัมย์   พร้อม พ.ต.ท.เลิศชาย  วงศ์อนุชิต สารวัตรกองกำกับการสืบสวนภูธร จ.บุรีรัมย์   นำกำลังตำรวจชุดปฏิบัติการสืบสวนภูธรจังหวัด    นำหมายศาลจังหวัดบุรีรัมย์   เข้าตรวจค้นที่บ้านพักหลังหนึ่งในตำบลกระสัง อ.เมือง             จ.บุรีรัมย์   หลังสืบทราบว่ามีพฤติการณ์เปิดบ้านรับจำนำรถจักรยานยนต์และรถยนต์  ซึ่งบางคันเป็นรถที่ยังผ่อนชำระไม่หมด   หรือเพิ่งดาวน์ออกมาใหม่   แล้วนำไปจำนำ   พอหลุดจำนำ  ก็ส่งขายต่อประเทศเพื่อนบ้าน    ซึ่งจากการตรวจสอบพบรถจักรยานยนต์ที่รับจำนำโดยผิดกฎหมายจำนวน 53 คัน และรถยนต์ตู้ทึบที่ดัดแปลงไว้สำหรับขนย้ายรถจักรยานยนต์อีก 1 คัน   สมุดบันทึกการรับจำนำ 2 เล่ม  และหลักฐานการจ่ายเงินผ่านแอพมือถืออีกด้วย  จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน
ทั้งนี้ได้จับกุม นายวิทยา   (ขอสงวนนามสกุล)  อายุ 63 ปี  อดีตทหารพราน  ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านและรับสารภาพว่า เป็นผู้รับจำนำรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ดังกล่าวจริง   โดยเรียกเก็บดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อเดือน หรือร้อยละ 36 ต่อปี    จึงได้นำของกลางรถจักรยานยนต์ทั้ง 53  คัน และรถยนต์ 1 คัน พร้อมผู้ต้องหา  ไปสอบสวนที่กองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดบุรีรัมย์  โดยแจ้งข้อกล่าวหา “รับจำนำรถโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.โรงรับจำนำมาตรา 5 และ46 ,  ประกอบกิจการจัดหามาซึ่งเงินทุนแล้วให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินในลักษณะประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล

ภายใต้การกำกับโดยไม่ได้รับอนุญาต,ให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกอัตราดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้หรือรับของโจร"

 พ.ต.อ.ยุทธพงษ์   รอดนวล   ผู้กำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดบุรีรัมย์     กล่าวว่า    ภายหลังสืบทราบว่ามีการลักลอบเปิดบ้านพักรับจำนำรถและส่งขายต่อประเทศเพื่อนบ้านโดยผิดกฎหมาย    ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์   จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัด   นำหมายศาลเข้าทำการตรวจค้นและจับกุมแก๊งรับจำนำรถโดยไม่ได้รับอนุญาตและคันไหนที่หลุดจำนำ  ก็จะส่งขายต่อประเทศเพื่อนบ้าน


 โดยจากข้อมูลทราบว่าแก๊งดังกล่าวจะมีการทำงานที่เป็นระบบไม่ว่าจะเป็นการจำนำรถที่เพิ่งดาวน์ออกจากศูนย์ หรือโชว์รูมใหม่ๆ  แล้วนำมาจำนำในราคาที่ต่ำกว่าความเป็นจริง  และเมื่อมีการรับจำนำแล้วคันไหนที่ไม่มีการส่งดอก    พอหลุดจำนำแล้วผู้รับจำนำก็จะส่งขายประเทศเพื่อนบ้านต่อ   ซึ่งเขารับสารภาพว่าทำแบบนี้มาแล้วประมาณ 10 ปี   เบื้องต้นได้ทำการยึดรถจักรยานยนต์ของกลางจำนวน 53 คัน และรถยนต์ 1 คัน เป็นรถที่ดัดแปลงไว้สำหรับใช้ขนย้ายรถ จยย.    หลังจากนี้ก็จะมีการสืบสวนขยายผลต่อเนื่อง   ไม่ว่าจะเป็นการกระทำผิด พ.ร.บ.ฟอกเงิน รับของโจร    และในส่วนคนที่เอารถมาจำนำก็จะตรวจสอบเพิ่มเติมถึงที่ไปที่มาว่านำรถมาจำนำด้วยเหตุผลอะไร หรือมีเจตนาอื่นแอบแฝงหรือไม่

      สุรชัย    พิรักษา  / บุรีรัมย์

แสดงความคิดเห็น