

ตร.สภ.ไทรโยค เข้าควบคุมสถานการณ์ ที่กำลังชุลมุนวุ่นวายจากการปะทะคารมกันของชาวบ้านทั้งสองฝ่าย ในที่สุดเวลาประมาณ 14.00 น.นายเนรมิต เหลืองอร่ามฟ้า นายอำเภอไทรโยค พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนา จึงเรียกทุกฝ่ายมาเจรจาหาทางออกร่วมกัน ผลการเจรจาร่วมกันหลายฝ่ายได้ข้อสรุปว่า เจ้าอาวาสได้ตัดสินใจขอลาออกจากการเป็นเจ้าอาวาส แต่จะยังไม่ลาสิขา โดยจะขอออกจากวัดไปรักษาโรคประจำตัวทางจิตที่เป็นอยู่ ในวันที่ 8 ต.ค.2568 เนื่องจากรอเวลาปวารณาตัวออกพรรษาเสียก่อน หลังจากที่ชาวบ้านทั้ง 2 ฝ่ายเข้าใจจึงแยกย้ายกันกลับส่วนกรณีของพระแบงค์ อายุ 34 ปี พระลูกวัดที่ถูกทำร้ายสาเหตุเพราะเจ้าอาวาสไปพบอุปกรณ์เสพยาเสพติดในกุฏิ จึงเกิดความโมโหแล้วลงมือก่อเหตุนั้น ผลปรากฎว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดยพันตำรวจโทกฤตญุตม์ นุ่นชูคัน รอง.ผกก.สส.สภ.ไทรโยค ได้ทำการตรวจปัสสาวะ เพื่อหาสารเสพติดในร่างกายผลที่ออกมาพบฉี่เป็นสีม่วง ซึ่งพระเบียร์ ยอมรับสารภาพเจ้าหน้าที่ว่าได้เสพยาบ้าเข้าไปจริง ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงทำการสึกพระเบียร์ออกจากความเป็นพระ ซึ่งพระเบียร์เองก็เต็มใจที่จะสึก และขอกลับไปสมัครใจบำบัดยาเสพติดที่บ้านในกรุงเทพมหานคร ส่วนเรื่องของคดีที่แจ้งความเอาไว้นั้นก็ขอให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายทั้งนี้ นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้รับรายงานจากนาย เนรมิต เหลืองอร่ามฟ้า นายอำเภอไทรโยค ว่า อำเภอไทรโยคได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและพระผู้ปกครองสงฆ์ลงพื้นตรวจสอบข้อเท็จจริงพร้อมพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค โดยได้นิมนต์พระอาจารย์แมน มารับทราบข้อกล่าวหาที่พระแบงค์ซึ่งเป็นผู้เสียหายจากการโดนทำร้ายร่างกายโดยการใช้สายยางตีเมื่อคืนวันศุกร์ที่3 ตค.68 ที่ผ่านมาต่อมาเวลา 14.00 น.นายเนรมิต เหลืองอร่ามฟ้า นายอำเภอไทรโยค พร้อมด้วย ผอ.สนง.พระพุทธศาสนาจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่.ตร.สภ.ไทรโยค รวมถึงนายก อบต.สิงห์ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พระผู้ปกครองสงฆ์ได้ลงพื้นที่ วัดสิงห์ไพบูลย์ประชาสรรค์ ต.สิงห์ อ.ไทรโยค พบประชาชนจำนวนกว่า 200 คน กำลังชุมนุมเพื่อเรียกร้องให้ดำเนินการกับพระอาจารย์แมน เนตร์เดชา (เจ้าอาวาสวัด)จึงปรึกษาหาหรือเพื่อหาทางออกร่วมกัน ผลการหารือปรากฎว่าทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกันว่าควรให้พระอาจารย์แมน ลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาส และไปจำวัดอยู่ที่อื่นก่อน ซึ่งพระอาจารย์แมนยินยอมลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัด ในวันที่ 8 ต.ค. 68 ช่วงเช้า เนื่องจากอยู่ในช่วงเข้าพรรษาและต้องเคลียร์เรื่องเอกสารทรัพย์สินส่งมอบให้แก่ผู้ปกครองสงฆ์ก่อนจึงจะเดินทางออกจากวัด ส่วนผลทางคดีให้เป็นไปตามที่พนักงานสอบส่วนกำหนด ส่วนชาวบ้านได้รับฟังแล้วพอใจ จึงยินยอมแยกย้ายกลับบ้านขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้สุ่มตรวจปัสสาวะในสารเสพติดพระในวัดทั้งหมด พบว่าพระเบียร์ พระลูกวัดคู่กรณีของเจ้าอาวาสพบสารเสพติดในร่างกายเพียงรูปเดียว จึงได้ทำการลาสิกขาบท โดยพระเบียร์ยอมรับสารภาพว่าเสพยาบ้าจริง และขอกลับเข้ารับการบำบัดที่บ้านเกิด ใน กทม.ต่อไป/




แสดงความคิดเห็น