บุรีรัมย์ จนท.เร่งย้ายผู้อพยพหนีฝนกลางดึกหลายคนหวั่นสู้รบยืดเยื้อห่วงบ้านสัตว์เลี้ยงวอนรัฐเยียวยาขาดรายได้

   จนท.เร่งย้ายผู้อพยพหนีฝนกลางดึก หลายคนกังวลสถานการณ์สู้รบยืดเยื้อห่วงบ้านทรัพย์สินและสัตว์เลี้ยงนอนไม่หลับต้องกินยา เขมรยิงถล่มไม่หยุด วอนรัฐบาลเยียวยาการขาดรายได้หากยืดเยื้อ ธารน้ำใจจากหลายภาคส่วนระดมช่วยผู้หนีภัยสงครามต่อเนื่อง

    (26 ก.ค.68)  บรรยากาศที่สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นศูนย์พักพิงรองรับผู้อพยพหนีภัยสงครามจุดหลักของจังหวัด  ล่าสุดเจ้าหน้าที่และจิตอาสาต้องเร่งเคลื่อนย้ายผู้อพยพหลายพันคน จากเต็นท์ที่บริเวณสนามแดร็ก เข้าไปพักอาศัยภายในตัวอาคารสนามแข่งรถ เนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมามีฝนตกและลมแรง ทำให้น้ำไหลเข้าบริเวณเต็นท์ที่พักของผู้อพยพขณะที่ผู้อพยพต่างก็เฝ้าติดตามสถานการณ์สู้รบผ่านทางโทรศัพท์มือถืออย่างใกล้ชิดเพราะอยากรู้ความเคลื่อนไหวว่าสถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง.

ซึ่งหลายคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าแม้เจ้าหน้าที่ศูนย์พักพิงจะดูแลอำนวยความสะดวก เรื่องที่พักอาหาร รวมทั้งมีทีมแพทย์พยาบาลคอยตรวจรักษาโรคให้กับผู้ที่มีโรคประจำเป็นอย่างดี  แต่สิ่งที่ทำให้ผู้อพยพกังวลคือเกรงว่าสถานการณ์สู้รบจะรุนแรงและยืดเยื้อ จึงเป็นห่วงบ้านเรือนทรัพย์สินและสัตว์เลี้ยงที่ไม่มีคนดูแล  ขณะที่ผู้สูงอายุบางคนที่มีโรคประจำตัวเช่นความดัน เบาหวาน ก็นอนไม่หลับต้องกินยาช่วย จึงภาวนาขอให้สถานการณ์สู้รบจบลงโดยเร็วเพราะอยากกลับไปทำมาหากินและดูแลสัตว์เลี้ยงที่บ้านตามปกติ แต่หากสถานการณ์สู้รบยืดเยื้อหลายวันก็อยากวอนให้รัฐบาลช่วยเหลือเยียวยาการขาดรายได้ในช่วงที่หนีสงครามไม่ได้ทำมาหากินด้วย

  นายธงเจิม. ยวงทอง  ชาวบ้านบ้านสายโท 2 ใต้ ต.ปราสาท อ.บ้านกรวด บอกว่า  ได้พาครอบครัวอพยพมาอยู่ที่ศูนย์พักพิงแห่งนี้ 3 วันแล้ว เจ้าหน้าที่ก็ดูแลเป็นอย่างดีทั้งที่พัก อาหาร  แต่สิ่งที่กังวลคือเป็นห่วงบ้านและสัตว์เลี้ยง  ตอนนี้ก็ทำได้แค่ติดตามสถานการณ์ข่าวสารทางมือถือตลอด  ก็ยังมีการสู้รบกันอย่างต่อเนื่องก็ขอส่งกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ทหารแนวหน้าทุกนาย  ชาวบ้านทุกคนก็เข้าใจและไม่มีใครอยากให้มีการสู้รบกัน. แต่หากการสู้รบยืดเยื้อหลายวันก็อยากให้รัฐบาลช่วยเหลือเยียวยาการขาดรายได้ช่วงที่ไม่ได้ทำมาหากินด้วย เพราะหากไม่มีสงครามครอบครัวก็ยังสามารถไปกรีดยาง มีรายได้เลี้ยงครอบครัวสัปดาห์ละ 4-5 พันบาท

   ด้านนางสิน  ชาติดี อายุ 62 ปี ชาวบ้านสายโท 5 ใต้ ตำบลจันทบเพชร ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่มีกระสุนปืนใหญ่ตกใส่ในหมู่บ้านและมีคนที่วิ่งหลบกระสุน บาดเจ็บ 1 ราย บอกว่า ตำเป็นต้องอพยพออกจากบ้านเพื่อรักษาชีวิต แต่ตอนนี้ห่วงบ้าน และสัตว์เลี้ยงที่อยู่ที่บ้าน ก็อยากให้สถานการณ์จลลงโดยเร็ว  ส่วนตัวก็มีโรคความดันเบาหวานแต่ก็มีเจ้าหน้าที่แพทย์พยาบาลติดตามดูแลให้เป็นอย่างดี แต่ก็อยากให้การสู้รบจบลงโดยเร็วจะได้กลับไปอยู่บ้านและทำมาหากินปกติ

    ส่วนสถานการณ์ที่อำเภอบ้านกรวด ช่วงเช้าวันนี้ยังไม่มีกระสุนปืนใหญ่ตกเข้ามาในพื้นที่เพิ่มเติม แต่ตลอดการสู้รบ2 วันที่ผ่านมามีกระสุนตกในพื้นที่รวม 84 ลูก มีผู้บาดเจ็บแล้ว 2 ราย บ้านพัง 2 หลัง วัวตาย 3 ตัวอย่าง 2 ตัว

 สุรชัย  พิรักษา / บุรีรัมย์