นนทบุรี วงจรปิด ไล่ล่าระทึก! แก๊งลักจยย.ตามใบสั่ง เสพยาซิ่งกระบะหนี ชนรถตำรวจพังยับ สุดท้ายไม่รอด รวบพร้อมของกลางเพียบ

     เมื่อวันที่ 26 ก.ค. 68 ที่สภ.ชัยพฤกษ์ จ.นนทบุรี พล.ต.ต.กิตต์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.วุฒิชัย สุคนธวิท ผกก.สภ.ชัยพฤกษ์ พ.ต.ท.พล พื้นพรม รองผกก.ป.สภ.ชัยพฤกษ์ พ.ต.ท.ธีรพงศ์ ประจักษ์จิตร์ รองผกก.(สอบสวน) สภ.ชัยพฤกษ์ พ.ต.ท.ฉัฐวัฒน์ สิริเบญจศักดิ์ สว.สส.สภ.ชัยพฤกษ์ ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมแก๊งตระเวนลักรถจักรยานยนต์รายสำคัญในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี มีผู้ต้องหาทั้งหมด 3 ราย คือ 1.นายมาโนช หรือนุ เม่นคง อายุ 32 ปี 2.นายอัครวัฒน์ หรือแบงก์ จุ้ยใจเย็น อายุ 18 ปี 3.นายศรชัย หรือต้า สร้อยมาลุน อายุ 21 ปี พร้อมของกลางจำนวนมาก  ฃเป็นรถจักรยานยนต์และอะไหล่อื่นอีกจำนวนมาก อยู่ในบริเวณบ้านหลังหนึ่ง หมู่ 10 ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นบ้านของนายมาโนช ได้แก่ 1.รถจักรยานยนต์ จำนวน 9 คัน 2.ล้อรถจักรยานยนต์ 10 วง 3.โครงรถ 2 โครง 4.ท่อไอเสีย 6 ท่อ 5.โช้คอัพ 10 อัน 6.ชุดสีรถ 3 ชุด 7.เครื่องมือช่าง 1 ชุด 8.แผ่นป้ายทะเบียน 2 แผ่น (มีการแจ้งหายไว้แล้วทั้ง 2 แผ่น) 9.รถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีเทา (เสริมคอกเหล็ก) ทะเบียน ตค-7446 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน (ใช้ขับมาก่อเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ และบรรทุกหลบหนี)

     การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากชุดสืบสวน สภ.ชัยพฤกษ์ สืบทราบว่ามีขบวนการลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี โดยคนร้ายใช้รถกระบะสีเทา เสริมคอกเหล็ก เป็นยานพาหนะในการก่อเหตุบรรทุกรถจักรยานยนต์หลบหนี จนประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเกิดเหตุเมื่อวันที่ 23 ก.ค. 68 เวลาประมาณ 04.15 น. ที่หอพักผู้ใหญ่ใจ ต.บางพลับ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 

     จากการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดและติดตามเส้นทางคนร้าย เจ้าหน้าที่พบรถกระบะต้องสงสัยจอดอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง หมู่ 10 ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ กระทั่งเวลาประมาณ 13.00 น. วันที่ 25 ก.ค. 68 พบรถกระบะคันดังกล่าวกำลังจะถอยออกจากบริเวณบ้าน มีนายมาโนช หรือนุ เป็นผู้ขับขี่ เมื่อเจ้าหน้าที่แสดงตัว เขากลับเร่งเครื่องหลบหนีเข้าไปในซอยทางตัน ทางตำรวจฝ่ายสืบสวนจึงลงจากรถรีบวิ่งเข้าชาจกระบะต้องสงสัย ก่อนกระบะดังกล่าววกกลับมาเร่งเครื่องขับรถเฉี่ยวชนรถของเจ้าหน้าที่ได้รับความเสียหาย ก่อนรถกระบะของนายมาโนชเสียหลักตกลงเนินริมถนนบริเวณหน้าบ้าน เจ้าหน้าที่จึงสามารถควบคุมตัวไว้ได้พร้อมของกลางรถกระบะที่ใช้ก่อเหตุ

     ต่อมา นายมาโนชให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับพวกอีก 2 คน ได้แก่ นายอัครวัฒน์ หรือแบงก์ และนายศรชัย หรือต้า ร่วมกันก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 125i สีแดง ทะเบียน 3กฎ-2707 กทม. บริเวณหอพักผู้ใหญ่ใจ ในวันที่ 23 ก.ค. 68 

     จากการขยายผล พบผู้ร่วมก่อเหตุคือนายอัครวัฒน์ ยืนอยู่บริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งรับสารภาพว่าได้ร่วมก่อเหตุจริง และพบรถจักรยานยนต์ของกลางจอดอยู่บริเวณหน้าบ้าน พร้อมทั้งยังพบรถจักรยานยนต์อีกคันที่ใช้ขี่มาก่อเหตุคือ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 125i สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึดไว้ทั้งหมด ต่อมานายมาโนชและนายอัครวัฒน์ ให้ข้อมูลนำไปสู่การติดตามจับกุมนายศรชัย ได้ที่ไซต์งานก่อสร้างไม่มีเลขที่ บริเวณเลียบคลองบางไผ่ อ.บางบัวทอง ทั้ง 3 คน ให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกันลักรถจักรยานยนต์มาแล้วหลายครั้ง ทั้งในนนทบุรีและพื้นที่ใกล้เคียง โดยนำรถที่ได้ไปขายต่อในราคาคันละ 7,000–10,000 บาท ตามใบสั่งที่ได้มา โดยนายมาโนช ซึ่งเป็นช่างซ่อมรถ อ้างว่านำเงินมาเลี้ยงดูแม่ซึ่งชราและป่วย

     พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ กล่าวว่า ตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรียังคงมุ่งมั่นในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทุกประเภท โดยเฉพาะคดีลักทรัพย์ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อพี่น้องประชาชน ซึ่งกรณีนี้ผู้ก่อเหตุได้รับ “ใบสั่ง” มา และได้ตระเวนก่อเหตุในหลายพื้นที่ของจังหวัดนนทบุรี ทั้งพื้นที่ชัยพฤกษ์ บางใหญ่ และบางแม่นาง ในส่วนของผู้ที่เป็นผู้ออก “ใบสั่ง” และผู้รับซื้อรถจยย. ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการขยายผล เพื่อติดตามจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องทุกราย โดยจากการตรวจสอบพบว่า หนึ่งในคนร้าย คือ นายมาโนช หรือนุ ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง มีประวัติคดีลักทรัพย์มาก่อน และเมื่อตำรวจตรวจปัสสาวะ พบว่ามีสารเสพติดในร่างกาย เช่นเดียวกับ นายศรชัย หรือต้า ที่พบสารเสพติดเช่นกัน

     สำหรับของกลางในคดีนี้มีจำนวนมาก โดยพฤติกรรมของคนร้ายหลังลงมือก่อเหตุ มักจะรีบทำลายของกลางทันที เช่น การเปลี่ยนสีรถจักรยานยนต์ ชำแหละอะไหล่ หรือบางรายส่งต่อออกนอกประเทศ ซึ่งตำรวจยืนยันว่าจะเร่งสืบสวนขยายผลเพื่อติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการอย่างเต็มที่ ส่วนกรณีรถตำรวจถูกผู้ต้องหาขับรถชนจนได้รับความเสียหายบริเวณไฟท้ายด้านขวา โชคดีที่ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ

     ด้าน นายศุภเสกข์ ฮวบสอน อายุ 48 ปี ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนเดินทางมาติดต่อรับรถจักรยานยนต์คืน หลังจากที่ตำรวจโทรมาแจ้งว่าจับคนร้ายได้แล้ว โดยรถคันดังกล่าวลูกชายตนนำไปใช้ในการทำงาน และจอดไว้ที่หอพัก ก่อนจะถูกขโมยไปเมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 68  รถของตนเป็นี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีแดง ซึ่งแม้คนร้ายจะนำไปทำสีใหม่ แต่ตนก็จำได้ เมื่อตำรวจนำรถกลับคืนมา ตนรู้สึกดีใจมาก เพราะลูกชายไม่มีรถไปทำงาน ตอนแรกไม่คิดว่าจะได้คืน ตนขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชัยพฤกษ์ ที่สามารถติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุและนำของกลางมาคืนให้ได้

     ขณะที่ นายสมใจ มูลผล หรือ “ผู้ใหญ่ใจ” อายุ 65 ปี และ นายอุดร นุ่มโพธิ์ อายุ 63 ปี ผู้เสียหายอีกกลุ่ม เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากลูกบ้านว่า เครื่องสูบน้ำ มูลค่า 30,000 บาท ถูกคนร้ายขโมยไป ซึ่งเป็นของใช้ในการทำมาหากิน ทำให้ได้รับความเดือดร้อน อีกทั้งยังมีทรัพย์สินของลูกบ้านคนอื่น ๆ ที่ถูกขโมยโดยคนร้ายรายเดียวกัน ตนจึงพาลูกบ้านเข้าแจ้งความที่ สภ.ชัยพฤกษ์ วันนี้เมื่อเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมคนร้ายได้ ตนและลูกบ้านจึงเดินทางมารับของคืน รู้สึกดีใจที่ได้ช่วยเหลือลูกบ้านให้ได้ทรัพย์สินกลับคืนมา และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชัยพฤกษ์ ที่ดำเนินการจับกุมผู้ก่อเหตุในครั้งนี้

     เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดของกลางทั้งหมด และส่งผู้ต้องหาพร้อมของกลางให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกในการหลบหนี , เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฉพาะนายมาโนช และนายศรชัย)



แสดงความคิดเห็น