ความคืบหน้ากรณีโซเชียลได้มีการแชร์คลิปเหตุการณ์ กลุ่มวัยรุ่นกว่า 30 คน ซิ่งรถจักรยานยนต์ป่วนเมือง    พร้อมพกอาวุธครบมือตะโกนท้าทายกัน "มึงอย่าเอากฎหมายมาคุยกับกู กฎหมายมันทำเฮียอะไรไม่ได้"  ก่อนจะยกพวกตะลุมบอนใส่กันและได้ยินเสียงคล้ายปืนระเบิดหลายครั้ง  บริเวณริมคลองละลมโบราณลูกที่ 4  ในเขตเทศบาลนครบุรีรัมย์ 3 คืนติดต่อกัน  สร้างความเดือดร้อนและหวาดผวาให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ในละแวกดังกล่าว   ทั้งเกรงจะได้รับอันตรายจากลูกหลง

 วันนี้ (14 ก.ค.68)  หลังได้รับรายงาน พล.ต.ต.ณรงศักดิ์   พรหมทา  ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์   ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.จำรัส   ศิริเลี้ยง  ผู้กำกับการ สภ.เมืองบุรีรัมย์  พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์  เร่งออกติดตามตัวกลุ่มวัยรุ่นที่ปรากฎในคลิปมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว

 ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์  ก็ได้ร่วมกับปลัดอำเภอเมืองบุรีรัมย์   เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง   เจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน (อส.)   กระจายกำลังออกติดตามแก๊งวัยรุ่นที่ก่อเหตุซิ่ง จยย. ยิงปืน  ปาระเบิดสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน  จนสามารถรวบตัวกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุได้ยกแก๊งเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา  เป็นวัยรุ่น เยาวชนชายอายุตั้งแต่ 14 – 19 ปี บางคนยังเรียนหนังสือ   และหลายคนเคยถูกจับทั้งกรณีแต่งซิ่ง  ขับแว่นแข่งกันหลายรอบแล้ว  แต่ก็ยังไม่เข็ดหลาบ   ทั้งนี้ยังสามารถตรวจยึดของกลางเป็นอาวุธมีด  มีดดาบยาวะวัตถุประกอบระเบิดจำนวนมาก   จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน   ทั้งนี้ยังได้ยึดรถจักรยานยนต์ดัดแปลงสภาพไว้ตรวจสอบกว่า 30 คันด้วย

 พ.ต.อ.จำรัส    ศิริเลี้ยง   ผู้กำกับการ สภ.เมืองบุรีรัมย์   กล่าวว่า   หลังจากมีการแชร์คลิปกลุ่มวัยรุ่นซิ่ง จยย.ยกพวกตีกัน  ยิงปืน ปาระเบิดใส่กันสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน   ก็ได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น   ซึ่งทางผู้บังคับบัญชาก็ได้สั่งการให้เร่งติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุให้ได้โดยเร็ว    จนสามารถติดตามจับกุมตัวกลุ่มวัยรุ่นได้กว่า 30 คน   

ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าวัยรุ่น เยาวชนบางคนเคยถูกจับกุมมาแล้ว   แต่ก็ยังไม่เข็ดหลาบมาก่อเหตุในลักษณะเดิมซ้ำอีก   ซึ่งก็จะได้ดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด    ทั้งนี้ก็ได้ฝากถึงพ่อแม่ผู้ปกครองให้ดูแลเอาใจใส่ใจอย่างใกล้ชิดมากขึ้น     เพราะหากมีการกระทำผิดก็อาจจะต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ซึ่งหากผู้ปกครองปล่อยปะ ละเลยไม่ดูแลบุตรหลานก็จะมีความผิดเช่นกัน   แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเชื่อว่าหากพ่อแม่ผู้ปกครองดูแลบุตรหลานให้ใกล้ชิดว่ากล่าวตัดเตือน และให้ความรักความอบอุ่น   การกระทำผิดในลักษณะดังกล่าวก็จะลดลง



     สุรชัย     พิรักษา / บุรีรัมย์

แสดงความคิดเห็น