นายสุร​เดช​ ยะ​สวัสดิ์​ รองหัวหน้า​พรรค​พลัง​ประชา​รัฐ รองหัวหน้า​พรรค​พลัง​ประชา​รัฐ พบปะเกษตรกรลำไยอบแห้งบ้านสันป่าเหียง ต.มะเขือเจ้ จ.ลำพูน เพื่อรับฟังปัญหา และเตรียมผลักดัน ด้านราคา และหาตลาดแหล่งใหม่ ให้กับกลุ่มวิสาหกิจและเกษตรกรลำไยอบแห้ง สู่ต่างประเทศ พร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร เขต 1 ถวิล พรมเมืองยอง

  นายสุร​เดช​ ยะ​สวัสดิ์​ รองหัวหน้า​พรรค​พลัง​ประชา​รัฐ  พร้อมด้วยคณะฯ  ได้เดินสายพบปะว่าที่ผู้สมัครและพบปะรับฟังปัญหาต่างๆของพี่น้องประชาชน ในภาคเหนือ ทั้ง น่าน ลำปาง ลำพูนและเชียงใหม่ 

ในส่วนของจังหวัดลำพูนได้ ลงพื้นที่พบปะเกษตรกรลำไยอบแห้งบ้านสันป่าเหียง เพื่อรับฟังปัญหา พร้อมผลักดัน ด้านราคา และช่วยหาตลาดแหล่งใหม่ให้กับกลุ่มวิสาหกิจและเกษตรกร ออกสู่ต่างประเทศ 

โดยมีประธานเครือข่าย วิสาหกิจชุมชน กลุ่มแปรรูปลำไยสีทอง (ถุงทอง) บ้านสันป่าแหียง เกษตรกรผู้ปลูกลำไย ตำบลมะเขือแจ้ อำเมืองลำพูน 

ทั้งนี้ จะได้รับเรื่องเพื่อส่งต่อให้กับทางด้าน ส.ส. ของทางพรรคพลังประชารัฐ ในการผลักดันและขับเคลื่อนทั้งในด้านทางกฎหมายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับลำไย ต่อไป

  ในส่วนของศึกเลือกตั้งครั้งหน้าที่จะมีขึ้นอีกปีกว่าๆ หรืออาจะจะเร็วกว่านั้นหากสถานการณ์เปลี่ยนแปลง ทางพรรคจึงมีการเตรียมพร้อม ในการคัดสรรผู้สมัคร เพื่อลงสู้ศึกเลือกตั้งต่อไป เป็นการเตรียมตัวเตรียมความพร้อมแต่เนิ่นๆ แสดงถึงความพร้อมของพรรคในการเตรียมการเลือกตั้งครั้งต่อไป

นายสุร​เดช​ กล่าวว่า พลเอกประวิตร หัวหน้าพรรคได้ตั้งเป้าหมายว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้าไว้ว่า ต้องการที่นั่ง สส.60 ที่นั่งเป็นนอย่างน้อย คือรวมปาตี้ลิส หรืออย่างน้อยก็ขอซัก 10 ที่นั่ง เพราะเราเตรียมปักธงไว้ทุกจังหวัดอยู่แล้ว  

ในส่วนของคำถามที่ว่าการลงพื้นที่ก่อนใครในภาคเหนือนั้น เพราะเหตุผลใด ได้ข่าวการยุบสภาหรือมีข้อมูลการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองด้านใดหรือไม่อย่างไร ความคิดเห็นส่วนตัวผมเชื่อว่าในฐานะเคยเป็น สส.มาก่อน คงไม่มีใครอยากให้ยุบสภา ก็ต้องยื้อให้นานที่สุด

เราเคยเป็นรัฐบาลเคยเป็นฝ่ายค้านมาก่อน เรามีประสบการณ์ แต่ถ้าหากเกิดการเปลี่ยนแปลง การเตรียมความพร้อมไว้ก่อนก็ไม่เสียหาย ในการเลือกตั้งครั้งหน้าตั้งเป้าจะร่วมรัฐบาลเลยมั้ย 

นายสุรเดชกล่าวว่าหากร่วมรัฐบาล อุดมการณ์ต้องมาก่อน หากความคิดเห็นและนโยบาลไม่ตรงกันเราก็ไม่เอา เช่นเรื่องของกาสิโนนี้เราไม่เอาเลยยืนยันชัดเจน ส่วนนโยบายการหาเสียงครั้งหน้า 

หากได้ร่วมรัฐบาล พรรคพลังประชารัฐมีนโยบายดีๆหลายอย่าง เช่นด้านการศึกษาให้เยาวชนได้เรียนฟรีถึงระดับปริญญาตรี ผู้สูงวัย 60-70-80 ปี ก็จะได้gเบี้ยยังชีพ 3,000-4,000 -5,000 บาทต่อเดือน 

ส่วนสุภาพสตรีที่ตั้งครรภ์ เราก็มีนโยบายช่วยเหลือตั้งแต่เดือนแรก เดือนละ 3,000 บาท รวม 9 เดือน ค่าทำคลอดช่วยอีก 1 หมื่นบาท 

   ในส่วนของปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตร เช่นลำไย มะม่วง หากพรรคได้เข้าร่วมรัฐบาล ก็จะเอากระทรวงพาณิชย์มาอยู่กับเราเพื่อจะได้แก้ปัญหาให้พี่น้องเกษตรกรได้ เรื่องนี้เราทำเป็นทำได้เพราะมองปัญหาออก

















 

แสดงความคิดเห็น