ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลปิล๊อก ตำบลปิล๊อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี นางรวีวรรณ ภูริเดช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ มอบหมายให้ นายสุริยน พัชรครุกานนท์ รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมหารือเรื่องการช่วยเหลือประชาชนให้เข้าถึงสาธารณูปโภคไฟฟ้า ประปา ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2567 ที่ให้จังหวัดกาญจนบุรี เป็นจังหวัดนำร่อง โดยมีนายพนม โพธิ์แก้ว หรือ สส.ไก่ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดกาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย เขต 5 พร้อมผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จำนวน 15 หน่วยงาน
ประกอบด้วย การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 (ราชบุรี) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดกาญจนบุรี สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) GISTDA ผู้แทนอำเภอทองผาภูมิ สำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 7 สำนักงานทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 2 (สุพรรณบุรี) อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ องค์การบริหารส่วนตำบลปิล๊อก สำนักงานพลังงานจังหวัดกาญจนบุรี สำนักงานธนารักษ์พื้นที่กาญจนบุรี การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 3 (ภาคกลาง) นครปฐม การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขาทองผาภูมิ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขาเมืองกาญจนบุรี พร้อมด้วยผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ สคทช.
จากนั้นคณะได้ลงพื้นที่เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นที่เริ่มต้นโครงการ (Kick Off) โดยที่ประชุมร่วมกันพิจารณาประเด็นพื้นที่เริ่มต้นโครงการ (Kick Off) การให้ความช่วยเหลือประชาชนให้เข้าถึงสาธารณูปโภคไฟฟ้า ประปา ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2567 และที่ประชุมมีมติมอบหมายให้หน่วยงานในพื้นที่ที่มีอำนาจหน้าที่ดูแลที่ดินของรัฐสำรวจ ตรวจสอบข้อมูลของประชาชนที่ยื่นขอพิสูจน์สิทธิ ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่อาศัยในเขตที่ดินของรัฐมาก่อนปี พ.ศ.2557 (กลุ่มเป้าหมายที่ 1 ประเภทที่ 1) และตกหล่นจากการสำรวจ ให้ได้รับการผ่อนผันการเข้าถึงสาธารณูปโภคไฟฟ้า ประปา เป็นลำดับแรก
ในส่วนของกรอบมาตราการแนวทางการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่อยู่อาศัยในเขตที่ดินของรัฐ ให้เข้าถึงสาธารณูปโภคไฟฟ้า ประปา มอบหมายให้หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ดูแลที่ดินของรัฐในพื้นที่ร่วมกับ GISTDA พิจารณาเร่งรัดการดำเนินการตามแนวทาง 9 ขั้นตอน โดยเรื่องงบประมาณมอบหมายให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสำรวจ ตรวจสอบข้อมูลการใช้งบประมาณ สำหรับการปักเสาพาดสาย นำไฟฟ้าเข้าพื้นที่ และสรุปวงเงินเสนอ สคทช. เพื่อนำเสนอต่อ คทช. และ ครม. พิจารณาตามลำดับต่อไป
ทั้งนี้ ในประเด็นการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) มอบหมายให้ สคทช. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวบรวม ตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำแนวทางมาปรับปรุงการดำเนินการ ถือเป็นการอำนวยความสะดวกในการแก้ไขปัญหาการนำไฟฟ้าเข้าสู่พื้นที่ และเพื่อใช้เป็นแนวทางในการทำ EIA ให้กับพื้นที่อื่นๆ ในลักษณะเดียวกันต่อไป
โดยก่อนหน้านี้คณะได้มีการประชุมร่วมกันที่ห้องประชุมเขาแหลม 1 ชั้น 2 อาคารที่ทำการเขื่อนวชิราลงกรณ ตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งมีนายสุริยน พัชรครุกานนท์ รอง ผอ.สํานักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ เป็นประธานประชุมหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาออกเอกสารสิทธิ์ (โฉนด) ที่ดินของผู้ที่ได้รับผลการะทบจากการสร้างเขื่อนวชิราลงกรณในพื้นที่ อำเภอทองผาภูมิ และ อำเภอสังขละบุรี โดยมีนายพนม โพธิ์แก้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย เขต 5 นายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ นายสุริยศักดิ์ เหมือนอ่วม นายอำเภอสังขละบุรี นางศุภวรรณ วงษ์ประยูร ผู้อํานวยการกลุ่มพัฒนาระบบบริหารสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ นางสาวภทรกช เหนือเกตุ ผู้อำนวยการศูนย์บริการจัดการและแก้ไขปัญหาเรื่องร้องทุกข์ด้านที่ดินและทรัพยากร พระมหาสุชาติ สิริปัญฺโญ เจ้าคณะอำเภอสังขละบุรี/ เจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม นายรักษิต ต้วมศรี หัวหน้ากองบำรุงรักษาโยธาเขื่อนวชิราลงกรณ นายนิติธร พุทธธรรมนโม ผู้อำนวยการนิคมสหกรณ์ทองผาภูมิ ผู้แทนสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 (ราชบุรี) ผู้แทน สนง.ทสจ.กาญจนบุรี ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ และประชาชนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนวชิราลงกรณ ในพื้นที่อำเภอสังขละบุรีและอำเภอทองผาภูมิเข้าร่วมประชุมจำนวนมาก
ทั้งนี้ก่อนประชุมนายพนม โพธิ์แก้ว ได้ให้เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเขื่อนวชิราลงกรณ กล่าวถึงความเป็นมาในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนเขื่อนวชิราลงกรณ ซึ่ง กฟผ.จำเป็นต้องใช้พื้นที่สำหรับก่อสร้างหัวงาน พื้นที่อ่างเก็บน้ำ พื้นที่สำหรับราษฎรอพยพ รวมทั้งก่อสร้างสาธารณูปโภค จากการสร้างเขื่อน ราษฎรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่อ่างเก็บน้ำถูกโยกย้ายไปอยู่ที่ใหม่ จำนวน 1,302 ครัวเรือนพื้นที่ที่ กฟผ. จัดสรรให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อน โดยแยกออกเป็น 5 แห่ง คือ1.)อำเภอสังขละบุรี แปลงจัดสรรลำห้วยซองกาเรีย 3 หมู่บ้าน เนื้อที่ 4,000 ไร่ 2.) แปลงจัดสรรห้วยมาลัย 5 หมู่บ้าน เนื้อที่ 11,600 ไร่ 3.)แปลงจัดสรรบ้านจองอั่ว 2 หมู่บ้าน เนื้อที่ 5,000 ไร่ 4.) อำเภอทองผาภูมิ แปลงจัดสรรห้วยเขย่ง 6 หมู่บ้าน เนื้อที่ 15,000 ไร่ และ 5.) แปลงจัดสรรห้วยกุยมั่ง 2 หมู่บ้าน เนื้อที่ 6,800 ไร่ รวม 42,400 ไร่ และวันนี้เป็นโอกาสที่ดีที่ได้ "kick off"ในการเริ่มแก้ปัญหาที่ดินของจังหวัดกาญจนบุรีที่มีมาอย่างยาวนานถึง 50 ปี
ขอให้พี่น้องประชาชนสบายใจได้ว่าวันนี้จากการทำงานของ สคทช.ที่ผ่านมา จากผลงานการแก้ปัญหาเรื่องที่ดินทำกินและการพูดคุยวันนี้ที่สรุปรายละเอียดและข้อมูลเป็นแนวทางที่สดใส คิดว่าการบริหารที่ดินทำกินของจังหวัดกาญจนบุรีถึงจะมีรายละเอียดที่ซับซ้อนแต่คาดว่าน่าจะแก้ไขได้ แต่อาจจะต้องใช้เวลาเพราะปัญหานี้สะสมมานานร่วม 50 ปี แล้ว
/////////////////////////////////////////////////////////
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์
แสดงความคิดเห็น