เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 10 มี.ค.68 ที่ห้องประชุมสร้อยทอง โรงแรมโกลเด้น ซิตี้ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง นางสาวสลาลีวรรณ ทัพทวี รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานเปิดโครงการ "มหกรรมการออม 51 ปี ทุนชุมชนขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก" โดยมีนายชัชชัย กลีบมะลิ พัฒนาการจังหวัดระยอง นายถวิล ผุดกระจ่าง รองประธานคณะกรรมการเครือข่ายกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตจังหวัดระยอง น.ส.กันติมา พิทักษ์รัตน์ กำนันตำบลชากกระชากโดน /ตัวแทนอำเภอแกลงกลุ่มสัจจะออมทรัพย์

เพื่อการผลิตบ้านหนองยายยม หัวหน้าส่วนราชการ คณะกรรมการกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตจากทั้ง 8 อำเภอของจังหวัดระยองเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง

นายชัชชัย กลีบมะลิ พัฒนาการจังหวัดระยอง กล่าวว่า กรมการพัฒนาชุมชนมีภารกิจสำคัญในการส่งเสริมและพัฒนาทุนชุมชน โดยสนับสนุนให้ประชาชนรวมตัวกันจัดตั้งกองทุนของชุมชนในรูปแบบ "กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต" ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการช่วยเหลือสมาชิกด้านเงินทุนเพื่อประกอบอาชีพ หรือใช้จ่ายในยามจำเป็น การดำเนินงานดังกล่าวอยู่ภายใต้หลักการบริหารจัดการโดยสมาชิกเอง และยึดหลักคุณธรรม 5 ประการ ได้แก่1.ความซื่อสัตย์ 2.ความเสียสละ 3.ความรับผิดชอบ 4.ความเห็นอกเห็นใจ


5.ความไว้วางใจ  "มหกรรมการออม 51 ปี ทุนชุมชนขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก" ครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อแสดงพลังของชุมชนในการพัฒนาตนเองผ่านหลักการออมทรัพย์ นอกจากนี้ ภายในงานยังมีบูธนิทรรศการและแสดงสินค้าจากเครือข่ายกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต รวมถึงสมาชิกที่ประสบความสำเร็จจากการบริหารจัดการทุนชุมชนอย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ ยังมีพิธีมอบเกียรติบัตรให้แก่ สมาชิกกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตดีเด่น คณะกรรมการเครือข่ายกลุ่มออมทรัพย์ที่มีผลงานโดดเด่นระดับอำเภอ รวมถึงเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนงานกลุ่มออมทรัพย์ พร้อมทั้งมีการบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการรณรงค์จัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตในจังหวัดระยอง ตามแนวทาง "1 อำเภอ 1 กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต" และ เวทีเสวนา "ก้าวต่อไป กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตในการขับเคลื่อนทุนชุมชนหนุนเสริมเศรษฐกิจฐานราก" โดยได้รับเกียรติจาก นายอาจณรงค์ สัตยพานิช อดีตผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับตัวแทนคณะกรรมการกลุ่มออมทรัพย์ และสมาชิกที่ประสบความสำเร็จในการนำเงินกู้ไปประกอบอาชีพ

การจัดงานในครั้งนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการส่งเสริมการออมและการบริหารจัดการทุนชุมชน เพื่อนำไปสู่ความเข้มแข็งและการพึ่งพาตนเองของประชาชนในระดับฐานราก ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดระยองอย่างยั่งยืนต่อไป






แสดงความคิดเห็น