มูลนิธิอาณัตพณ ซารัมย์ (ลูกเติ้ง) ร่วมกับส่วนราชการ  รวมทั้งฝ่ายปกครองอำเภอคูเมือง องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)พรสำราญ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.)โคกก่อง ผู้นำชุมชน หมู่บ้าน และ อสม.ในพื้นที่ ต.พรสำราญ อ.คูเมือง  เดินหน้าโครงการ “รวมพลังรักศรัทธา แก้ปัญหายาเสพติดแบบบูรณาการ” หมู่บ้านต้นแบบสีขาว ต้นแบบปลอดยาเสพติด โดยมี นายโสภณ ซารัมย์ ประธานกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร เป็นประธาน , นายมนูญศักดิ์ นามประเทือง นายอำเภอคูเมือง , นายแพทย์กิตติ โล่ห์สุวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลคูเมือง , นายสุระ บุญยอ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลพรสำราญ , ส่วนราชการ , ผู้นำชุมชน , อสม. และประชาชน เข้าร่วม
โดยเจ้าหน้าที่ได้มีการปูพรมค้นหาผู้ติดยาเสพติดในพื้นที่ตำบลพรสำราญ 3 หมู่บ้าน ได้แก่  บ้านโคกเพชร หมู่ 2 บ้านเพชรบูรพา หมู่ 16 และบ้านบัวทอง หมู่ 18 ต.พรสำราญ อ.คูเมือง โดยการตรวจคัดกรองประชาชนในพื้นที่อายุ 13-60 ปี กลุ่มเป้าหมายทั้งหมด 392 คน มารับการตรวจคัดกรอง  267 คน ซึ่งผลการตรวจ พบผลบวก 35 คน ในจำนวนนี้ มีพระภิกษุ 2 รูป จึงได้ให้เจ้าอาวาสวัดทำการสึกก่อนส่งเข้ารับการบำบัด ณ ศูนย์บำบัดของอำเภอคูเมือง เป็นเวลา 7 วัน แล้วส่งตัวกลับมาติดตามต่อที่บ้านอีก 16 สัปดาห์  หลังจากนั้นอีก 1 ปีติดตามตรวจซ้ำหากพบมีการเสพหรือเกี่ยวข้องกับยาเสพติดจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
 นายสุระ บุญยอ นายก อบต.พรสำราญ กล่าวว่า  การปูพรมค้นหากลุ่มเสี่ยงและตรวจปัสสาวะหาสารเพสติดครั้งนี้ เป็นการเดินหน้าโครงการ “รวมพลังรักศรัทธา แก้ปัญหายาเสพติดแบบบูรณาการ” หมู่บ้านต้นแบบสีขาว ต้นแบบปลอดยาเสพติด  เป็นการสร้างความตระหนักให้ประชาชนในพื้นที่ มีส่วนร่วมในการแก้ปัญหายาเสพติด ร่วมกันกับส่วนราชการ และเพื่อให้ชุมชนให้โอกาสผู้หลงผิดได้รับการบำบัดฟื้นฟู ส่งเสริมให้มีอาชีพ รายได้ กลับสู่อ้อมกอดของครอบครัวและสังคมที่อบอุ่น โดยมีกระบวนการที่เกี่ยวข้องจากทั้งภาคการเมือง ภาคราชการ ภาคเอกชน และภาคประชาชนร่วมมือกัน
 ด้านนายโสภณ ซารัมย์ กล่าวว่า อำเภอคูเมืองเป็นอำเภอที่มีกลุ่มเสี่ยงจำนวนมาก เนื่องจากเกษตรกรส่วนหนึ่งใช้แรงงานในการทำไร่อ้อย มีโรงงานน้ำตาล มีสวนยางพารา ทำให้ผู้ใช้แรงงานส่วนหนึ่งหันไปพึ่งยาเสพติด ทางอำเภอจึงได้ร่วมกัน กวดขันในโครงการรวมพลังต้านยาเสพติดอย่างจริงจัง และได้แบ่งขั้นตอนการ การป้องกันรักษาบำบัด โดยผู้เสพในกลุ่มสีเขียว คือเสพเป็นครั้งคราว โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล อสม.และฝ่ายปกครองจะเป็นผู้ดูแลคนกลุ่มนี้ โดยนัดตรวจเป็นครั้งคราวและมียาบำบัดให้ทำความเข้าใจกับผู้ปกครองให้สอดส่องดูแล ส่วนผู้เสพในกลุ่มสีเหลือง จะต้องนำเข้าบำบัดที่ศูนย์บำบัดของอำเภอคูเมือง เป็นเวลา 7 วัน และส่งต่อให้ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพเป็นผู้ติดตามอาการต่อไป ขณะที่ ผู้เสพในกลุ่มสีส้ม จะถูกส่งไปรักษาที่โรงพยาบาล และผู้เสพในกลุ่มสีแดง ถูกส่งไปรักษาในโรงพยาบาลที่มีมินิธัญญาลักษณ์










  สุรชัย    พิรักษา / บุรีรัมย์

แสดงความคิดเห็น