รายงานความคืบหน้าการร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแพร่ กรณีที่ถูกอำเภอวังชิ้น สั่งให้ออกจากตำแหน่งเนื่องจากการเข้าชื่อขับไล่ของประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในหมู่บ้าน ที่เกินกว่ากึ่งหนึ่ง นายอำเภอวังชิ้น โดย นางศิริมา ปาลาศ ปลัดอำเภอ (เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนนายอำเภอวังชิ้น) ได้มีคำสั่งอำเภอวังชิ้นที่ 384/2567 ลงวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ 2567 ให้ นายสุเทพ สร้อยปา พ้นจากตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ตำบลแม่ป้าก อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม พ.ศ 2568 และให้มีการเลือกตั้งใหม่ภายใน 30 วัน
จากกรณีดังกล่าว นายสุเทพสร้อยปา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ตำบลแม่ป้าก กลายเป็นอดีตผู้ใหญ่บ้านไปในทันที โดยไม่ทราบสาเหตุการเข้าชื่อขับไล่และไม่มีการสอบสวนข้อเท็จจริง จึงได้ทำการอุทธรณ์ว่าเกิดความไม่เป็นธรรมในการนำบัตรประชาชนและการลงนามขับไล่เป็นเอกสารอันเป็นเท็จ ซึ่งชาวบ้านจำนวนมากยืนยันไม่ได้ลงนามขับไล่และมีชาวบ้านบางรายไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานว่าไม่ได้เข้าร่วมลงนามขับไล่ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งประเด็นดังกล่าว นายสุเทพ สร้อยปา แต่เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อนางสาวราตรี จำปาแก้ว อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 208 หมู่ 4 ตำบลแม่ป้าก อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ ผู้ที่นำเอกสารเข้าชื่อปลดผู้ใหญ่บ้านยื่นต่อทางอำเภอวังชิ้น
และเมื่อวันที่ 16 มกราคม นายสุเทพ สร้อยปา ได้เข้าพบนายหฤฑีฐ์ ศรีเอียด นายอำเภอวังชิ้น เพื่อขอความเป็นธรรม นายอำเภอวังชิ้นได้แจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ทราบจึงได้มีคำสั่งแต่งตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงโดยมี นายชัยสิทธิ์ ชัยสัมฤทธิ์ผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เป็นประธานในการสอบสวนฯ
วันที่ 22 มกราคม 2558 นายหฤฑีฐ์ ศรีเอียด ได้ทำหนังสือแจ้งผลการสอบสวนกรณีดังกล่าวอย่างเป็นทางการว่าอำเภอวังชิ้นได้พิจารณาแล้วว่าเนื่องจากคำสั่งดังกล่าวมีการระบุว่าราษฎรผู้มีคุณ
สมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ 2557 ที่มีสิทธิ์เลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านในหมู่บ้านมีจำนวน 494 คน เป็นข้อมูลที่หลงผิดไป จำนวนที่แท้จริงคือ 495 คน และมีราษฎรที่มีคุณสมบัติดังกล่าวได้มาเข้าชื่อขอให้ผู้ใหญ่บ้านออกจากตำแหน่งจำนวน 259 คน เกินกว่ากึ่งหนึ่ง ไม่ทำให้ผลขอคำสั่งดังกล่าวเปลี่ยนแปลง
หลังจากนั้น นายชัยสิทธิ์ ชัยสัมฤทธิ์ผล ประธานกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงได้แจ้งให้ผู้ร้องเรียนทราบว่า การโต้แย้งคำสั่งทางปกครองปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของนายอำเภอวังชิ้นให้เป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการที่กฎหมายกำหนด
ว่าที่ร้อยตรีภาคิน ชมภูพันธ์ ทนายความและรองประธานคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดแพร่ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเป็นปัญหาที่ขั้นตอนการปฏิบัติของทางราชการในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นธรรมตามกฎหมาย และข้อเท็จจริงการเข้าชื่อปลดผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งขณะนี้ประธานกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงได้สั่งการให้นายอำเภอผู้มีอำนาจหน้าที่ทางปกครองจะต้องดำรงไว้ซึ่งกฏหมายและความเป็นธรรม คำสั่งทางปกครอง ถ้าไม่รอบคอบก็อาจไปถึงศาลปกครอง อย่างไรก็ตาม การสอบสวนในคดีอาญามีการดำเนินไปพร้อมๆกัน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 137 มาตรา 267 แล้วมาตรา 264 (ว.2)
ธีรพงษ์ ธงออน/แพร่
061-595-5297
แสดงความคิดเห็น