ความคืบหน้ากรณีที่ชาวบ้านเข้าไปต่อนกเขา แล้วพบโครงกระดูกมนุษย์  บริเวณป่าเชิงเขาพนมรุ้ง  เขตพื้นที่บ้านดอนหนองแหน  หมู่ 2 ต.ตาเป๊ก อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นเขตติดต่อกับหมู่บ้านหนองกระต่าย  ต.ประทัดบุ อ.ประโคนชัย  ซึ่งจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบกะโหลกศรีษะ   ชิ้นส่วนโครงกระดูกมนุษย์ ทั้งแขน  ขา   กางเกงวอมขายาวสีดำ  เสื้อคลุมแขนยาว  เสื้อแขนสั้น  รองเท้า   และยางรัดผมสีดำ   กระจัดกระจายอยู่รอบๆโครงกระดูกในรัศมี 20 เมตร    ทั้งนี้จากการตรวจสอบใกล้จุดที่พบโครงกระดูกและเสื้อผ้า   ยังพบกองฟืนอยู่จำนวนหนึ่งด้วย   แต่ยังไม่ทราบว่าโครงกระดูกมนุษย์ที่พบเป็นของใครและเสียชีวิตด้วยสาเหตุอะไร

 ล่าสุดเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ก็ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงกระดูก และเตรียมส่งตรวจที่สถาบันนิติเวช ภายหลังทราบข่าวก็ได้มีชาวบ้านห้วย ต.ตาเป๊ก อ.เฉลิมพระเกียรติ  เดินทางไปที่ สภ.เฉลิมพระเกียรติ และดูโครงกระดูก เสื้อผ้า รองเท้าที่พบในป่า  ก็ยืนยันว่าโครงกระดูกที่พบเป็นของนายเปล้า  เจริญศรี อายุ 72 ปี ซึ่งสติไม่ค่อยดี มีอาการหลงลืมและชอบเดินไปเรื่อยได้หายออกจากบ้านประมาณ 1 เดือนแล้ว ส่วนสาเหตุก็คาดว่าน่าจะเดินเข้าไปในป่าแล้วเป็นลมไม่มีคนเห็นทำให้เสียชีวิต ซึ่งญาติไม่ได้ติดใจสาเหตุการตาย

     สอบถามนางนาตยา แก้วยงกฎ อายุ 54 ปี หลานผู้ตาย (เสื้อสีน้ำเงิน) เล่าว่าผู้ตาย  เป็นคนสติไม่ค่อยดี ชอบเดินหายไปตลอด ทุกครั้งที่เดินหายไปก็จะมีคนไปเจอและจะส่งกลับบ้าน แต่รอบนี้เขาหายไปกว่า 1 เดือน ทางครอบครัวก็ตามหาแต่ยังไม่ได้ไปแจ้งความเพราะว่าไม่มีรูปถ่าย จึงไม่แจ้งความ ส่วนตนเชื่อว่าเขาน่าจะไปหาฟืนและเป็นลมเพราะเขาไม่กินข้าวเนื่องจากเดินออกจากบ้านทุกวัน ส่วนที่จำได้ก็คือ ยางรัดผมสีดำ ส่วนตัวเชื่อว่าเขาเป็นลมเสียชีวิตไม่ใช่เกิดจากการฆาตกรรม
    ด้านนางแคล้ว ศรีถาวร อายุ 80  ปี เป็นพี่สาวผู้ตาย  เล่าว่า น้องชายสติไม่ดี เขาจะเดินตลอด เดินหลงไปทั่ว ทุกครั้งจะมีคนมาส่งบ้าน แต่รอบนี้น้องหายไปประมาณ 1 เดือนที่บ้านก็ตามหาตลอดจนกระทั่งมีคนมาเจอศพทางครอบครัวก็ไปดูด้วยก็เชื่อว่าน่าจะเป็นน้องชายตัวเองอย่างแน่นอนเบื้องต้นไม่ติดใจสาเหตุการตายเชื่อว่าน่าจะเป็นลมบนเขามากกว่า

     ช่วงที่น้องชายหายจากบ้านก็ได้ยินเสียงหมาหอนกลางคืนติดต่อกันหลายคืน  คิดว่าอาจจะเป็นวิญญาณของน้องชายที่จะมาสื่อสารให้ญาติรับรู้หรือไม่

 ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งชิ้นส่วนไปตรวจ DNA ประกอบคดีก่อนจะนำกระดูกกลับมาให้ครอบครัวไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีนักศาสนาต่อไป



   สุรชัย   พิรักษา / บุรีรัมย์

แสดงความคิดเห็น