พฤ.7พฤศจิกายน2567 วันนี้เวลา09.09น.นายนครินทร์ กองทุน นายกองค์การบริหารส่วนตําบลไผ่ ได้เป็นประธานเปิดงานบุซกระฐินสามัคคีขึ้น ณ ภายในศาลาอเนกประสงค์ของชุมชนบ้านไผ่ หมู่ที่11โดยมีรองนายก อบต.ไผ่ พร้อมด้วยรองประธานสภาองค์การบริหารส่วนตําบลไผ่ ผอ.โรงพยาบาลสงเสริมตําบลไผ่ ผอ.โรงเรียนบ้านไผ่ ส.อบต.ไผ่ กํานัน ผู้ใหญ่บ้านหมู่1 ผูใหญ่บ้านหมู่2 ผู้ใหญ่บ้านหมู่9 ผู้ใหญ่บ้านหมู่11 ผู้ใหญ่บ้านหมู่13 ผู้ใหญ่บ้านหมู่14และกลุ่มสตรี ชาวบ้านไผ่ทั้ง6ชุมชนเข้าร่วมงานกันอย่างคึกคักโดยนิมนต์พระสงฆ์จํานวน9รูปมาเจริญพุทธมนต์ในพิธี
ซึ่งงานบุญกระฐินสามัคคีในปีนี้ชาวชุมชนบ้านไผ่หมู่ที่11 ได้เป็นเจ้าภาพในการจัดงานขึ้นเพราะว่าบ้านไผ่ถือว่าเป็นหมู่บ้านที่ใหญ่จึงแยกชุมชนออกไปเป็น 6ชุมชน ได้แก่ชุมชนบ้านไผ่หมู่1-ชุมชนบ้านไผ่หมู่2-ชุมชนบ้านไผ่หมู่9-ชุมชนบ้านไผ่หมู่11-ชุมชนบ้านไผ่หมู่13-ชุมชนบ้านไผ่หมู่14 (รวมแล้วทั้งหมด6ชุมชน)
เพราะว่าปีหนึ่งปีหนึ่งกระฐินสามารถทอดถวายวัดได้เพียงครั้งเดียวดังนั้นทั้ง6ชุมชนบ้านไผ่จึงจัดให้หมุนเวียนเป็นเจ้าภาพจัด และชาวชุมชนทั้ง6ชุมชนก็สามารถเป็นเจ้าภาพร่วมกัน จึงเรียกว่ากระฐินสามัคคี
งานเริ่มตั้งแต่วันที่7-10พฤศจิกายนชาวบ้านต่างตบแต่งประดับประดาสถานที่ขึ้นอย่างสวยงามนําผ้า แพ ปัจจุปัจจัยต่างๆเครื่องสงฆ์ ผลไม้ตามฤดูกาล ติดธงสัญญาลักษ์ของงานบุญกระฐิน พร้อมมีโรงครัวทําอาหารไว้เลี้ยงชาวบ้านที่ออกมาร่วมงานในวันที่7-9นั้นเป็นวันตุ้มโฮมงานบุญกระฐินเพื่อให้ชาวบ้านได้นําสิ่งของพร้อมเงินทองออกมาช่วยงานส่วนวันที่นั้นคือวันที่นําองค์กองกระฐินไปถวายแด่วัดเลียบบ้านไผ่ถือเป็นอันเสร็จสิ้นงานบุญกระฐินสามัคคีในปีนี้
ประเพณีการทอดกระฐินของพุทธศาสนิกชนไทยมีมาช้านานตั้งแต่สมัยพุทธกาลและกาลทานที่มีกําหนดเขตเวลาถวายแน่นอน คณะสงฆ์วัดหนึ่งๆ สามารถรับได้ครั้งเดียวในรอบปีมีกําหนดระยะเวลาถวายเพียง 1เดือน ตั้งแต่วันแรม1ค่ำเดือน11ไปจนถึงในขึ้น15ค่ำเดือน12ระยะเวลานี้เรียกว่ากฐินกาล คือระยะเวลาทอดกฐิน หรือเทศกาลทอดกฐิน ทั้งนี้ยังเป็นการสงเคราะห์พระภิกษุที่จําพรรษาครบถ้วนไตรมาสให้ได้รับอานิสงส์ตามพุทธบัญญัติ นับได้ว่าบูชาพระพุทธศาสนาด้วยการปฏิบัติบูชาส่วนหนึ่งและเป็นการสืบต่อประพณีกฐินทานมิให้เสื่อมสลายไปจากวัฒนธรรมประเพณีของคนไทย อีกทั้งยังเป็นการเสริมสร้างพลังสามัคคีขึ้นในสังคมอีกทางหนึ่งด้วย และยังเป็นการหาทุนเพื่อบูรณปฏิสังขรณ์วัดวาอารามด้วย
ภาพ/ข่าว/บุญเรือง เกษรจันทร์/สุรินทร์/รายงาน/
แสดงความคิดเห็น