เรื่องราวดี ๆ ครั้งนี้เปิดเผยขึ้นเมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊ค ต้นปราการ ออกมาโพสต์ ระบุมีสมาชิก ชื่อคุณต้น ซึ่งเป็นพลเมืองดี แจ้งว่าพอเจอเงินสดจำนวน 20,000 บาท คาที่ตู้เอทีเอ็มย่านบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ  และช่วยประกาศตามหาเจ้าของเงินดังกล่าว ซึ่งหลังจากที่เรื่องถูกเผยแพร่ออกมาทำให้ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตจำนวนมากส่วนใหญ่พากันชื่นชมความมีน้ำใจของพลเมืองดีท่านนี้ 

  ล่าสุด เมื่อช่วงบ่าย วันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 ทีมข่าวเราได้เดินทางไปพบกับ นายสุชาติ(หรือต้น) ทองคำ อายุ 32 ปี ชาวอำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นพนักงานของบริษัทเอกชนย่านบางเสาธง พลเมืองดีรายนี้ ทีมข่าวเราได้พูดคุยกับ นายต้น ซึ่งเจ้าตัวพานักข่าวเราไปชี้จุดที่เจอเงินก้อนดังกล่าว โดยบอกว่า ช่วงเช้าก่อนเข้างาน คุณต้นมากดเงินที่ตู้เอทีเอ็มบริเวณริมถนนเทพารักษ์ กม. 20  ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ พอมาถึงตอนนั้นไม่มีใครมากดเงินที่ตู้ ตนจึงเข้าไปกดเงินจากอีกตู้หนึ่งพอกดเสร็จหันมาเห็นว่ามีเงินคาที่ตู้เอทีเอ็มข้าง ๆ ตอนนั้นหันมองก็ไม่มีใคร จึงหยิบเงินออกมาพบว่าเป็นแบงค์พันทั้งหมดนับดูได้ 2 หมื่นบาท จึงมองหาและถามคนแถวนั้นก็ไม่มีใครแสดงตัวเป็นเจ้าของ จึงไปทำงานและปรึกษากับเพื่อนร่วมงานและได้ให้คำแนะนำว่าต้องเอาไปมอบให้กับทางตำรวจเพื่อช่วยตามหาเจ้าของ ใส่ส่วนตัวนั้น ถึงแม้ว่าเงินก้อนนี้จะมากกว่าเงินเดือนที่ได้รับ แต่ตนเองก็ไม่มีความคิดที่อยากจะเอามาเป็นของตัวเอง เพราะไม่ใช่เงินของเราและเจ้าของคงจะเดือดร้อนหากเงินนี้หายไป จึงตัดสินใจไปแจ้งความลงบันทึกประจำและมอบเงินดังกล่าวไว้ที่ สภ.บางเสาธง พร้อมทั้งติดต่อนักข่าวให้ช่วยประกาศตามหาเจ้าของ 
           ต่อมา ทีมข่าวเราได้โทรศัพท์ติดต่อไปสอบถาม พ.ต.อ.โสภณ มงคลโสภณรัตน์ ผกก.สภ.บางเสาธง ได้ระบุว่า เรื่องดังกล่าวนี้ ต้องชื่นชมพลเมืองดีท่านนี้ที่ไม่เก็บเงินไปเป็นของตัวเองและนำมามอบให้กับทางตำรวจตามหาเจ้าของ ซึ่งหลังจากนี้จะให้ทางฝ่ายสืบสวนติดต่อทางธนาคารเพื่อตรวจสอบจำนวนเงินดังกล่าวในห้วงเวลาดังกล่าวใครเป็นผู้ทำการกดเงินและติดต่อเจ้าของเงินมารับเงินคืนอีกครั้ง แต่หากตรวจสอบและติดต่อทางเจ้าของเงินไม่ได้และไม่มีผู้ใดมาแสดงตัวเป็นเจ้าของเงินเกินหนึ่งปี เงินจำนวนดังกล่าวก็จะตกเป็นของพลเมืองดีตามกฎหมาย






 นางสาวปรางค์ทิพย์ จินดามรกฎ / นายนพดล ลมเย็น จ.สมุทรปราการ

 

แสดงความคิดเห็น