ฉาว !! สาวนักกีฬามอเตอร์สปอร์ตทีมชาติไทย นำหลังฐาน ร้อง ผศ.ดร.เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความ ปมเงินทอนวงการกีฬา เผย การกีฬาอนุมัติงบประมาณ 10 ล้านบาท ถูกหักหัวคิว 20 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 8 ล้าน จากนั้นถูกบิ๊กการกีฬาออกอุบายให้จ่ายเงินค่าทำงานล่วงหน้าไปก่อน คงค้างอีก 3.5 ล้าน หลังทวงถามถูกปฏิเสธ อ้างโง่เอง จึงร้องทนายดัง ช่วยทวงความเป็นธรรม
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 น.ส.ตาล นักกีฬามอเตอร์สปอร์ตทีมชาติไทย นำหลักฐานเป็นข้อความแชตไลน์ / การโอนเงิน / รูปภาพ / และไทม์ไลน์เหตุการณ์ มอบให้กับ ผศ.ดร.เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความ นำเป็นข้อมูลในการดำเนินคดีกับข้าราชการแวดวงการกีฬารายหนึ่ง ชื่อย่อ อาหญิง หลังจากที่ถูกชักชวนให้ทำโครงการ Little waan be waw rider (ลิตเติ้ล แว้น บี ว้าว ไรเดอร์ ) เมื่อปี พ.ศ.2565 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นโครงงานของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ
น.ส.ตาล นักกีฬามอเตอร์สปอร์ตทีมชาติไทย กล่าวว่า หลังถูกชักชวนให้ทำโครงการฯ ตนในฐานะนักกีฬามอเตอร์สปอร์ตทีมชาติไทย ก็ทำอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อต้องการให้เกิดประโยชน์กับเยาวชนผู้ที่รักในการขับขี่รถจักรยานยนต์ โดยวัตถุประสงค์ของการจัดทำโครงการนี้ เพื่อฝึกอบรมทักษะการขับขี่รถจักรยานยนต์อย่างถูกต้องให้กับเยาวชนที่มักชอบแอบลักลอบขับขี่แข่งกันตามถนนหลวง หรือ กลุ่มที่ถูกเรียกว่า “เด็กแว้น” มีการรับสมัครเยาวชนจำนวน 300 คน เข้าร่วมโครงการฯ โดยมีเงินสนับสนุนจากการกีฬาแห่งประเทศไทยจำนวน 10 ล้านบาท จ่ายผ่านสมาคมกีฬาแข่งรถจักรยานยนต์แห่งประเทศไทย ซึ่งเลขาสมาคมฯ แจ้งว่าต้องมีการหักภาษี 20 เปอร์เซ็นต์พร้อมค่าธรรมเนียมอื่น ๆ โดยตนได้รับเงินจริง เป็นจำนวน 8 ล้านบาท และหลังจากนั้น ก็มีการหลอกล่อให้ตนสำรองจ่ายเงินค่าทำงานโครงการต่อไป เพิ่มอีก 6.5 ล้านบาท และจ่ายคืนกลับมาเพียง 3 ล้านบาท คงค้างจ่ายอีก 3.5 ล้านบาท เมื่อตนทวงถาม ก็ถูกบ่ายเบี่ยง ปิดโทรศัพท์ไม่รับสาย หลังเริ่มมีปัญหาหนักขึ้น “อาหญิง” ได้เรียกตนเข้าไปพบที่ สนง. กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ โดยมีอาหญิงและทีมงานจำนวนมากร่วมประชุมลักษณะข่มขู่ทำให้กลัว บันทึกภาพและเสียง ยึดโทรศัพท์มือถือของตนกับน้องชายไว้นอกห้อง นอกจากนี้ยังพูดถึงนักการเมืองที่อยู่ในป่า ชื่อ ป.บ่อยมาก อ้างว่าเป็นเจ้านาย และยังกล่าวถึงผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ว่าถ้าเกิดปัญหาขึ้น ท่านจะเชื่อใครมากกว่ากัน นอกจากนี้ อาหญิง ยังเคยหลอกล่อให้ตนจัดซื้อของใช้ นาฬิกาสุดหรูราคาหลายแสนบาท เครื่องสำอางชาแนล และ หมวกกันน็อค ให้กับลูกชายของอาหญิง ซึ่งมีราคารวมเป็นเงินหลายแสนบาทอีกด้วย
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ตนเสียความรู้สึกกับข้าราชการรายนี้เป็นอย่างมาก จึงเข้ามาขอความช่วยเหลือ ผศ.ดร.เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความ ให้ดำเนินคดีทวงเงิน 3.5 ล้านบาท และขอให้หน่วยงานต้นสังกัดตรวจสอบพฤติกรรมฉ้อฉลในการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของข้าราชการรายนี้ ที่สร้างความเสียหายให้กับประชาชนและสร้างความเสื่อมเสียให้กับองค์กรแวดวงการกีฬาของชาติ ตนเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ถูกกระทำ เพราะนอกจากตนแล้วยังมีนักกีฬาคนอื่น ๆ ที่ถูกกระทำ แต่ไม่กล้าออกมาร้องเนื่องจากเกรงกลัวอิทธิพล
ด้าน ผศ.ดร.เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความ กล่าวว่า ตน พร้อมให้ความช่วยเหลือด้านคดีความกับ น.ส.ตาล นักกีฬาหญิงทีมชาติไทย เนื่องจากดูพยานหลักฐานแล้ว พบว่ามีมูลเป็นผู้เสียหายจริง พร้อมฝากถึงอาหญิง ให้คืนเงินกับผู้เสียหาย และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการทำงาน ให้สมกับเป็นข้าราชการไทย ที่มีหน้าที่ทำงานรับใช้ประเทศชาติและประชาชน อย่าเอาตำแหน่งหน้าที่มาหากิน สร้างความทุกข์ให้คนอื่น ตนพร้อมทำหน้าที่ทนายความ เพื่อทวงความยุติธรรมให้กับผู้เสียหายอย่างถึงที่สุด
*************************
นางสาวปรางค์ทิพย์ จินดามรกฎ / นายนพดล ลมเย็น จ.สมุทรปราการ
แสดงความคิดเห็น