พฤ24ตุลาคม2567- เมื่อช่วงคืนวันที่23ตุลาคมที่ผ่านมาในเวลา20.00น. พ.ต.ท.อิทธิพล กระจายศรี สว.สอบสวน สภ.รัตนบุรี พร้อมด้วยชุดสืบ สภ.รัตนบุรี และหน่วยกู้ภัยฮุก31จุดอําเภอรัตนบุรี หลังได้รับแจ้งจาก ศูนย์วิทยุสื่อสาร สภ.รัตนบุรี จากสายด่วน191 ว่ามีเหตุหญิงลื่นล้มเสียชีวิตหน้าห้องน้ำ ที่บ้านเลขที่67หมู่11 ตําบลรัตนบุรี อําเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ ก่อนจะรุดไปในที่เกิดเหตุ และได้พบร่างของนางสุภาพ เจริญรัตน์ อายุ53ปี สวมเสื้อสี่ขาว แขนสั้น สวมกางเกงขาสั้นลายดอก นอนในท่านอนหงาย ในพื้นปูนใกล้ๆที่เตียงนอน โดยมีใบแก้มบูดบวมเปล่ง ในตาเขียว มีรอยแผลและมีคาบเลือดติดในใบหน้า ลําตัวเริ่มแข็ง มือขาวซีด คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วเกิน2ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบเพียงคาบเลือดหยดเป็นจํานวนมากบริเวณทางเข้าประตูห้องน้ำ สามีบอกภรรยาเดินไปเข้าห้องน้ำแล้วเกิดลื่นล้มหัวขะมําหมดสติ หลังจากทั้ง2นั่งดื่มเหล้าขาวมาทั้งวัน
***ขณะที่นายสมชาย กองแก้วเจริญ แายุ55ปี บ้านเลขที่67หมู่ที่11 ตําบลรัตนบุรี อําเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ผู้เป็นสามีเล่าให้พนักงานสอบสวนฟังว่า....ตนเองได้นั่งดื่มกินเหล้าขาวกับผู้ตายคือนางสุภาพ(ภรรยา)ตลอดทั้งวัน ที่โต๊ะเตียงหน้าบ้านของตนเองแล้วก็ย้ายมานั่งดื่มกินกันบริเวณภายในบ้านหน้าโทรทัศน์ใกล้ๆเตียงนอน ตั้งแต่เช้ามาจนถึงเวลา5โมงเย็น ก่อนภรรยาของตนจะเดินไปเข้าห้องน้ำแล้วเกิดลื่นล้มหัวขะมําหน้าห้องน้ำ ตนจึงเดินไปอุ้มมานอนที่พื้นบ้านบริเวณหน้าโทรทัศน์ ชึ่งตนนึกว่าภรรยาแค่เมาสุราหนักไปจนหลับไป จากนั้นตนก็นั่งดื่มต่อไปสักพักคนเดียวก่อนจะรีบปลุกภรรยาโดยตนเรียกภรรยาตนไปสามครั้งแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับจากภรรยาของตนเลย
ก่อนที่ตนเองจะรีบเดินไปที่บ้านของน้องสาวที่อยู่ห่างกันราวๆเกือบ400เพื่อให้มาดูว่าพี่สไภ้เป็นอะไรถึงเรียกปลุกไม่ตื่น จนตนและน้องสาวเดินเท้ากลับมาบ้านของตนในเวลาจะ2ทุ่มจึงรู้ว่าภรรยาของตนนั้นได้เสียชีวิตไปแล้ว...(.นายสมชาย(สามีผู้ตาย)ได่เล่าเหตุการณ์ให้พนักงานสอบสวนฟัง)
***ส่วนนางสาวบุญรัตน์ กองแก้วเจริญ น้องสไภ้ผู้ตายเล่าว่า..ตนเองกําลังทําภาระกิจอยู่ในบ้านตนอยู่ก็ได้ยินพี่ชาย(คือนายสมชาย)เดินเท้ามาบอกว่า พี่สไภ้(นางสุภาพผู้ตาย)ลื่นล้มหน้าห้องน้ำปลุกที่ไรก็ไม่ยอมลุกจึงให้ตนเองรีบไปดูหน่อยตนจึงรีบมา แต่พอตนมาถึงก็เห็นร่างพี่สไภ้นอนในท่านอนหงายตัวเย็นซีดจึงรู้พี่สไภ้ตายแล้วจึงรีบโทรแจ้ง1669และ191
และนางสาวบุญรัตน์ น้องสไภ้ยังเล่าต่อว่านายสมชายพี่ชายของตนมีอาชีพอิสระ คือนั่งๆนอนๆและออกไปหาดื่มเหล้ากับเพื่อนบ้านเป็นประจําเกือบทุกวัน นานๆทีจะออกไปรับจ้างกับเขาบ้าง ส่วนนางสุภาพพี่สไภ้(ผู้ตาย)ได้ไปรับจ้างล้างจานในร้านก๋วยเตี๋ยว ที่อีกหมู่บ้านหนึ่งพอได้เงินมาก็จะซื้อเหล้าขาวมานั่งดืมกับพี่ชายของตนเสมอๆเป็นประจํา บางครั้งก็ทะเลาะกันตบตีกันจนตกเลือดยางออกก็มีจนใบหน้าพี่สไภ้มีร่องรอยบาดแผล และพี่สไภ้ยังป่วยเป็นโรคหลายโรคเช่นโรคตับ -โรคไต-โรคเบาหวาน-โรคความดัน อื่นๆอีก.... (นางสาวบุญรัตน์น้องสไภ้เล่าให้ฟัง)
***บรรดาชาวบ้านบ้านใกล้เรือนเคียงต่างเล่าว่า..คู่สามีภรรยาคู่นี้ชอบดื่มเหล้าขาวและจะนั่งดื่มเหล้ากันบริเวณหน้าบ้านเสมอๆและบางครั้งก็ได้ยินเสียงทะเลาะกันไปมาตามประสาคู่สามีภรรยา แต่วันนี้พวกตนไม่ยินเสียงทะเลาะกันเลยพวกตนได้ยินแต่เสียง นายสมชายร้องเรียกนางสุภาพ(ผู้ตาย) แค่3ครั้งเท่านั้นแต่พวกตนไม่เห็นนายสมชาย สามีของนางสุภาพ มาร้องขอความช่วยเหลืออะไรเลย ทั้งๆที่นายสมชายบอกว่า..นางสุภาพลื่นล้มจนหมดสติไป (บรรดากลุ่มชาวบ้านบ้านใกล้เรือนเคียงต่างกล่าวออกมา.)..........
จากตรวจสอบของ พนักงานสอบสวนและชุดสืบ สภ.รัตืนบุรีในที่เกิดเหตุ พบว่ามีร่องรอยคาบเลือดหยดที่บริเวณทางเข้าห้องน้ำ และใบหน้าเขียวช้ำ มีรอยบาดแผลถลอกตามใบหน้า
จากนั้นพนักงานสอบสวนได้ให้หน่วยกู้ภัยฮุก31นําร่างผู้เสียชีวิตไปชันสูตรเพิ่มเติบที่โรงพยาบาลรัตนบุรีก่อนที่แพทย์จะระบุว่าผู้ตายคอหัก จนเป็นสาเหตุในการเสียชีวิตในครั้งนี้...และชุดสืบยังได้ค้นเจอ กุดแจคีมล๊อกขนาดใหญ่ซุกใต้ผ้าห่มในเตียงสามีอยู่1อันและได้นําไปตรวจสอบชึ่งนายสมชายอ้างว่า..เก็บเอาไว้ซ่อมท่อน้ำประปาเท่านั้น...
***และเมื่อช่วงเช้าวันนี้ที่พฤ.24ตุลาคมผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่งานศพของนางสุภาพ เจริญรัตน์(ผู้ตาย) ชึ่งญาตินําศพมาบําเพ็ญกุศลที่บ้านเลขที่57หมู่7 ตําบลรัตนบุรี ชึ่งเป็นบ้านของมารดาของผู้ตายทามกลางบรรยากาศของงานเงียบเหงา และยังได้พบกับสามีผู้ตายคือนายสมชาย กองแก้วเจริญ อยู่ในสภาพเมาแอ๋ พูดจากไม่ได้ศัพท์ ไม่ได้ได้ความ ก่อนจะเดินไปยกมือไหว้ต่อหน้าโรงศพภรรยาด้วยสีหน้าเหมือนคนไม่มีความโศกเศร้า
ขณะที่มารดาและน้องสาวผู้ตายยังติดใจการตายเพราะตอนไปรับศพที่โรงพยาบาลแพทย์และกู้ภัยที่ชันสูตรแจ้งว่า พบใบหน้าบวม ขอบตาเขียวช้ำ มีรอยเขียวช้ำด้านหลังตนคอ สรุปคือคอหักแต่มารดาและน้องสาวและญาติๆก็ไม่ติดใจการตายเพราะอยากให้เรื่องมันจบๆกันไปและอยากผู้ตายจากไปด้วยความสงบ..............
ภาพ/ข่าว/นายบุญเรือง เกษรจันทร์/สุรินทร์/รายงาน
แสดงความคิดเห็น