นนทบุรี วงจรปิด ศึกสายเลือด พี่น้องทะเลาะกันโบกปูนปิดทางเข้า-ออก แม่ช่วยเจรจาถูกด่าคำหยาบคาย

     จากกรณีที่มีผู้เสียหายร้องขอความช่วยเหลือผ่าน เพจ “ดร.แก้วช่วยได้​” ว่าขอให้ช่วยเข้ามาแก้ไขปัญหากรณีที่พี่สาวได้ก่ออิฐบล็อคมาปิดทางร่วม ทางเข้า-ออก ของบ้านน้องสาว (ผู้ร้องเรียน) และแม่ โดยเหลือเนื้อที่ให้สามารถขับขี่รถจยย.ออกจากบ้านได้เพียง 1 เมตรเท่านั้น

     ภาพจากกล้องวงจรปิด (1) วินาทีที่ นส.อ้อย (นามสมมุติ)​ พี่สาวของผู้ร้องได้สาดขี้ดินหรือขี้ตะไคร่จากท่อระบายน้ำ โดยตักขึ้นมาเลอะ พื้นที่บ้านของน้องสาว ที่อยู่ฝั่งขวามือของคลิป​ หลังจากนั้นครอบครัวของน้องสาวก็ได้นำน้ำมาราด ทำความสะอาด​ ต่อมากล้องวงจรปิด (2) ก็จับภาพได้อีก ขณะที่พี่สาวนำก้อนอิฐ จำนวน 4 ก้อน มาโบกปูน ปิดทางเข้า-ออก ซึ่งเป็นทางร่วมระหว่างบ้านพี่สาวและบ้านน้องสาวที่อยู่กับแม่ โดยเหลือทางเข้า-ออก ประมาณ 1 เมตร​ เท่านั้น และกล้องวงจรปิดถัดมา (3) เป็นช่วงปะทะคารม ระหว่างแม่เจ้าของบ้าน ที่อยู่ท้ายซอยหรือว่าขวามือจากมุมกล้อง กำลังยืนด่าทออยู่กับลูกสาวคนโตที่นำอิฐบล็อกมากั้นทางเข้า-ออก​ โดยในคลิป น.ส.อ้อย (นามสมมุติ) ลูกสาวคนโต ได้ตะโกนต่อว่าแม่บอกว่า “ก็มันเป็นแบบนี้จะทำยังไง” “อย่ามาเหยียบบ้านกูนะ​” ด้านแม่ก็พยายามบอกว่า “มันเป็นทางร่วมจะมาทำแบบนี้ได้อย่างไร” ฝั่งน.ส.อ้อยก็บอกว่า “จะกวาดน้ำมาทางนี้ทำไม​ ก็มันเป็นทางร่วม ” ทางฝั่งแม่ก็บอกว่า “ก็มันเป็นขี้หมาบ้านมึง ถ้างั้นกูเอาขี้หมาไปวางไว้บ้านมึงได้ไหมล่ะ” น.ส.อ้อยก็บอกว่า “เดี๋ยวกูเอาขี้หมาไปปาบ้านมึงเอง​” โดยทั้งคู่ ยืนด่าทอกันยกใหญ่ ถึงขนาดที่ลูกสาวคนโตพูดว่า “กูก็อยากเห็นเหมือนกันว่ามึงจะนอนตายแบบไหน”

     ดร.ปรเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ หรือ ดร.แก้ว ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาอัยการจังหวัดนนทบุรี , ประธาน กต.ตร.สภ.รัตนาธิเบศร์ และผู้ก่อตั้งเพจ “ดร.แก้วช่วยได้” พร้อมด้วย นายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือทนายโป้ง สส.พรรคประชาชน เขต 7 จังหวัดนนทบุรี (ซึ่งมาในฐานะให้ข้อมูลด้านกฎหมาย) หลังได้รับร้องเรียน จึงลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ​บ้านหลังหนึ่ง ต.ลำโพ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี โดยที่เกิดเหตุนั้นอยู่ท้ายซอย ซึ่งต้องเดินเข้าไปเป็นทางร่วมที่ใช้เข้า-ออก กว้างประมาณ 3 เมตร เดินลึกเข้าไป ประมาณ 200 เมตร จะพบกับบ้านหลังแรกซึ่งอยู่ซ้ายมือ คือบ้านของน.ส.อ้อย (นามสมมุติ) พี่สาวคนโต คนที่นำเอาอิฐ มาโบกปูนปิดทางเข้า-ออก บ้านน้องสาวและแม่​ โดยน.ส.อ้อย เลี้ยงสุนัขสายพันธุ์ เยอรมันเชเพิร์ด จำนวน 5-6 ตัว ถัดไปจากบ้านของน.ส.อ้อย เป็นบ้านของนางเฉลียว สังข์ปลื้ม​ (แม่)​ และนางนันทินุช หรือพี่แขก (ผู้​ร้องเรียน​)​ ซึ่งตอนที่ทีมข่าวไปยังมีอิฐบล็อค 4 ก้อน โบกปูนปิดทางเข้า-ออกบ้านอยู่ โดยเหลือพื้นที่ให้ขับขี่รถจยย.เข้า-ออก ประมาณ 1 เมตรเท่านั้น​


     โดยทีมข่าวพยายามพูดคุยกับน.ส.อ้อย​ (นามสมมุติ) แต่ก็ไม่เป็นผล อารมณ์ค่อนข้างฉุนเฉียว และตะโกนด่าทอแม่และน้องสาวไม่หยุด

     ด้านนางนันทินุช หรือพี่แขก เปิดใจกับทีมข่าวว่า ที่ต้องร้องมาทางเพจดร.แก้วช่วยได้ เพราะทนไม่ไหวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น​ โดยบ้านของตนอยู่สุดซอยอย่างที่เห็น ส่วนบ้านของพี่สาวอยู่ถัดมา​ ซึ่งบ้านทั้ง 2 หลัง มีการแบ่งกันจากมรดกของพ่อถูกต้องตามกฎหมาย​ นอกจากนี้ยังมีที่ดินส่วนที่เป็นทางร่วมสำหรับเข้า-ออกบ้าน ซึ่งถือกรรมสิทธิ์ร่วมกันระหว่างตนและพี่สาว​ เป็นทางเข้า-ออกที่ใช้ร่วมกัน แต่ปัญหาคือเวลาที่พี่สาวไม่พอใจ ก็มักจะปิดทางเข้า-ออกบ้านของตน ก่อนหน้านี้มีการนำกรงสุนัขมาปิดทางเข้า-ออกไปแล้ว และล่าสุดวันนี้ก็ได้นำอิฐบล็อกมาก่อปิดทางเข้า-ออกอีก​ ทำให้พี่สาวและแม่มีปากเสียงกันอย่างที่เห็นในคลิป​วงจรปิด และถ้าดูจากทางเข้าบ้านของตนจริงๆจะเห็นว่ากรงสุนัขของพี่สาวก็ล้ำทางสาธารณะ​ ตนก็ยอม เพราะเห็นว่ายังพอที่จะเข้า-ออกบ้านได้ เวลาจะนำรถขับเข้าไปจอดภายในบ้าน เมื่อผ่านกรงสุนัขบ้านพี่สาวก็ต้องพับกระจกรถยนต์ลง เพื่อให้ขับเข้าไปได้ ซึ่งเรื่องนี้ก็ถือว่าตนทนสุดๆแล้ว แต่ปรากฏว่าวันนี้นำอิฐบล็อกมาขวางทางเข้า-ออกอีก ก็รู้สึกว่าทนไม่ไหวแล้ว และอยากให้มีหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือ เพราะไม่สามารถจะพูดคุยเจรจาใดๆกับเขาได้เลย​ มีแต่ด่าทอกลับมา







แสดงความคิดเห็น