เมื่อเวลา 18.50 น.วันที่ 30 ตุลาคม 2567 ร.ต.อ.จันดา เดิมพัน รอง.สว.(สอบสวน) สภ.บางละมุง ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์พ่วงข้างพุ่งชนเสาไฟฟ้ามีผู้เสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดบริเวณ ถนนสายนาวัง – โป่งสะเก็ด ห่างจากวัดเขา สองพี่น้องประมาณ 1 กม. หมู่ 5 ต.ตะเคียนเตี้ย อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรีบไปตรวจสอบ พร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ฯ เมืองพัทยา



     ที่เกิดเหตุเป็นช่วงทางโค้ง ลงเนินเขาสองพี่น้อง ซึ่งเส้นทางดังกล่าวค่อนข้างเปลี่ยว ไม่มีแสงไฟส่องทาง ตรวจสอบพบรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ยี่ห้อ ฮอนด้า โซนิค สีดำ ทะเบียน 7 กฮ 4539 กทม. สภาพ พุ่งชนเสาไฟฟ้าแรงสูงข้างทาง จนพังเสียหายยับเยิน ตรวจสอบข้างรถพบร่างผู้เสียชีวิตทราบชื่อว่านาย อาทิตย์ เชียงเกตุ อายุ 39 ปี ชาวจังหวัดลำปาง อาชีพคนงานก่อสร้าง สภาพศพนอนหงาย สวมเสื้อคอกลมสีน้ำเงิน นุ่งกางเกงยีนส์ขายาว โดยท่อนแขนขวาด้านบนหัก ท่อนขาด้านล่างข้างซ้ายหัก เบ้าตาด้านขวาเขียวช้ำ ปูดบวม ที่ลำคอมีบาดแผลปริศนาคล้ายถูกแทงด้วยของมีคม ( คล้ายกับถูกแทงด้วยเหล็กขุนชาร์บ ) จนเป็นรูโบ๋หลายแผล โดยมี พระเลี่ยมกรอบพลาสติก คาอยู่ในแผล โดยศพเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 20 ชม. จนศพเริ่มส่งกลิ่นเหม็นเน่า นอกจากนี้ตำรวจตรวจสอบภายในกระเป๋าคาดเอวสีแดง ซึ่งอยู่ในตัวผู้ตาย พบยาบ้า บรรจุในห่อพลาสติกใส จำนวน 3 เม็ด และ อุปกรณ์ยาเส้นจำนวน 1 ชุด ไฟแช็ค 2 อัน และ บัตรประชาชนผู้ตาย ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

     นายเลิศชาย มีอาลัย อายุ 59 ปี เจ้าของร้านขายของชำใกล้จุดเกิดเหตุ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุมี ชาวบ้าน มาเดินหาจิ้งหรีด ใกล้กับจุดเกิดเหตุ และเป็นผู้มาพบศพ จากนั้นก็รีบไปบอก ตนเองที่ร้าน ก่อนจะประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ มาทำการตรวจสอบ ส่วนผู้ตาย ตนจำได้ว่าเป็นลูกค้าที่ร้าน โดยชอบมาซื้อเหล้าขาว ที่ร้านตนเองเป็นประจำ โดยนิสัยของผู้ตายจะเป็นคนพูดจาเสียงดัง ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อ 1 วันก่อน ญาติๆ เพิ่งจะออกตามหา เพราะหายตัวไปวันเต็มๆ แต่ไม่มีใครพบเห็น จนกระทั่งมาพบศพดังกล่าว 

     นางสาวอารีย์ ศรีดี อายุ 59 ปี เพื่อนร่วมงานของผู้ตาย หลังจากทราบข่าวได้เดินทางมา ที่เกิดเหตุทันที พร้อมกับให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ผู้ตายเพิ่งเดินทางมาทำงานเป็น แรงงานก่อสร้าง ได้ประมาณ 3 อาทิตย์ โดยก่อนหน้านี้เมื่อคืนวันที่ 29 ตุลาคม ผู้ตายได้ยืมรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ของผู้ใหญ่ในแคมป์ ออกไปทำธุระด้านนอก จากนั้น ก็ไม่ได้กลับมาที่แคมป์อีกเลย โดยหายตัวไป 1 วันเต็มๆ จนกระทั่งมีคนมาแจ้ง ว่าผู้ตายเป็นศพเสียชีวิตอยู่ในสภาพดังกล่าว

     นางสาวอารีย์ ยังให้การต่ออีกว่า ส่วนตัวรู้ว่าผู้ตายเป็นคนเสพยาบ้า เพราะเถ้าแก่ เคยจับได้ และบอกให้เลิก ถ้าไม่เลิกก็จะไล่ออก อีกทั้งผู้ตายยังเป็นคนชอบดื่มเหล้าขาวหลังเลิกงานเป็นประจำ ส่วนนิสัย ส่วนตัวมองว่าเป็นคน นิสัยนักเลง และ ก้าวร้าว แต่เพื่อนร่วมงานก็ไม่ค่อยมีใครกล้ายุ่ง จนกระทั่งมาพบว่าเป็นศพ ส่วนสาเหตุการตายในครั้งนี้ ตนเองยังไม่ปักใจเชื่อว่าเกิดจากอุบัติเหตุ ผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์ชนเสาไฟฟ้า เนื่องจากผู้ตายมีบาดแผลคล้ายถูกทำร้ายที่บริเวณลำคอ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ ทำการชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง

    ด้านพนักงานสอบสวน สภ.บางละมุง ได้ส่งศพ ไปชันสูตรที่โรงพยาบาลบางละมุง ในเบื้องต้น แต่หากทางญาติติดใจในการเสียชีวิต ก็จะส่งศพผ่าชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียด ที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ อีกครั้ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องรอให้ผลชันสูตรออกมาก่อน ตำรวจจึงจะสามารถสรุป สาเหตุการตายที่แท้จริงได้ ส่วนบาดแผลที่พบตำรวจก็ยังไม่สามารถ ฟันธงได้ว่าเกิดจากสาเหตุใด เนื่องจากศพเสียชีวิตมาแล้วหลายชั่วโมง โดยตำรวจมีการเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุอย่างละเอียด และ เรียกสอบปากคำพยาน เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป




# ภาพ/ข่าว ทิวากร กฤษมณี ผู้สื่อข่าวภูมิภาคประจำเมืองพัทยา จ.ชลบุรี

แสดงความคิดเห็น