วันนี้ ( 3 มิ.ย.68 ) จากการเปิดเผยของ พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา ประธานคณะกรรมาธิการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา ถึงสถานการณ์ข้อพิพาทระหว่างไทย-กัมพูชา ในพื้นที่ สามเหลี่ยมมรกต ( ช่องบก ) อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี และ ปราสาทตาเมือนธม ตาเหมืนโต๊ด และ ตาเมือน ชายแดน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นปัญหายืดเยื้อ และกระทบกับอธิปไตย และความมั่นคงของประเทศ ที่อยู่ในความสนใจของประชาชนทั้งประเทศ ที่มีความห่วงใยกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะข่าวสารจาก โซเซียลมีเดีย ที่รัฐบาลยังสื่อสารไม่ชัดเจน และอาจจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และเกิดกระแสคลั่งชาติ ที่ไม่เป็นผลดีต่อการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น คณะกรรมาธิการทหารและความมั่นคงของรัฐ ฯ มีความห่วงใยกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จึงได้เรียกประชุมด่วนคณะกรรมาธิการ และกำหนดที่จะเดินทางลงพื้นที่ เพื่อรับทราบสถานการณ์ที่เป็นจริง จากกองทัพภาคที่ 2 และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อใช้เป็นแนวทางในการเสนอข้อคิดเห็นในการแก้ปัญหาต่อรัฐบาล และเป็นการเยี่ยมเพื่อเป็นกำลังใจกับเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และ พลเรือน ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละและอดทน รวมทั้งประชาชนในพื้นที่ ในระหว่างวันที่ 9 -12 มิถุนายน 2568 และได้มีการออกแถลงการณ์ ถึง รัฐบาล เพื่อให้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทพื้นที่ ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้น แถลงการณ์คณะกรรมาธิการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา เรื่อง ข้อเสนอแนะต่อรัฐบาล และสภาความมั่นคงแห่งชาติกรณี ข้อพิพาทแนวชายแดนไทย-กัมพูชาคณะกรรมาธิการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา ได้ติดตามสถานการณ์ กรณีพิพาท ชายแดนไทย-กัมพูชา อย่างใกล้ชิด ด้วยความเป็นห่วง โดยเฉพาะเหตุปะทะล่าสุดบริเวณ “ สามเหลี่ยมมรกต” อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคง การรุกล้ำอธิปไตย และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ของทั้งสองฝ่ายทั้งนี้ ทั้งฝ่ายไทย และ กัมพูชา ได้แสดงจุดยืนร่วมกันในเบื้องต้นว่า จะใช้กลไกทางการทูต และกฎหมายระหว่างประเทศ เป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหา โดยการถอยกำลังออกจากจุดปะทะ และการใช้กลไกคณะกรรมการเขตแดนร่วม ( JOINT BOUNDAYRY COMMITTEE JBC )ข้อเสนอแนะ เชิงนโยบาย จากคณะกรรมาธิการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา มีดังต่อไปนั้น1 ขอให้รัฐบาล ใช้กฎหมายและการเจรจาเป็นเครื่องมือหลัก ในการแก้ไขข้อพิพาทที่เกิดขึ้น โดยการผลักดันให้เป็นไปตามกลไกของ JBC ด้วยการยึดหลักการปักปันเขตแดนตามกรอบ MOU ปี 2543 และ สนธิสัญญา ที่เกี่ยวข้อง2.ควบคุมสถานการณ์ในพื้นที่อย่างมืออาชีพ ดูแลกำลังพล บำรุงขวัญ และ สวัสดิการ พร้อมมีมาตรการ ความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่เสี่ยง3.สร้างความเข้าใจและแสวงหาความร่วมมือในทุกระดับ ด้วยการ สื่อสาร ข้อมูลที่เป็นจริง โปร่งใส ลดกระแสชาตินิยม ที่อาจจะทำให้ สถานการณ์เลวร้ายลง4. ขอยกย่อง และให้กำลังใจ เจ้าหน้าที่ทหารและข้าราชการทุกฝ่าย ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ อดทน ต่อการยั่วยุ และ ยึดมั่นมรหลักการ สันติวิธี เพื่อปกป้องอธิปไตย และความสงบเรียบร้อยของประเทศชาติ5.คณะกรรมาธิการทหาร และความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา ขอเน้นย้ำว่าการแก้ไขปัญหา ข้อพิพาทชายแดนไทย-กำพูชา ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะประชาชน และ สื่อมวลชน โดยยึดหลัก สันติวิธี กลไกทางกฎหมาย และการสื่อสารข้อเท็จจริง เพื่อรักษาอธิปไตย ผลประโยชน์ของชาติ และความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศเพื่อบ้าน ////ภาพข่าว//นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ ผู้สื่อข่าวนิวส์24สถานีประชาชนจังหวัด หาดใหญ่ จ.สงขลา
Home Unlabelled บิ๊กสวัสดิ์ ประธานกรรมาธิการทหารฯ ห่วงสถานการณ์ ชายแดนไทย -กัมพูชา ออกแถลงการณ์ถึงรัฐบาล และนำคณะลงพื้นที่ ติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อเสนอแนะ รัฐบาลในการแก้ปัญหา
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น
(
Atom
)
แสดงความคิดเห็น