นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่า สิ่งสำคัญในการรับมือกับสถาการณ์ไฟป่าหมอกควันในปีนี้สิ่งแรก คือการสร้างความเข้าใจเรื่องการเผากับชาวบ้าน ว่ามันส่งผลเสียทั้งต่อตนเองและเพื่อนมนุษย์ และเมื่อทำความเข้าใจแล้ว ต่อไปคือการตกลงร่วมกันและขอความร่วมมือไม่เผา ซึ่งไฟป่าที่เกิดขึ้นทุกวันนี้เกิดจากการที่คนจุดไฟ 100% ฉะนั้นการทำความเข้าใจร่วมกันจึงเป็นสิ่งสำคัญในการควบคุมไฟ กรณีที่ไม่สามารถห้ามหรือควบคุมได้และมีการจุดไฟขึ้น เราต้องรู้ให้เร็วจากการติดตามจากดาวเทียม ควบคู่กับการลาดตระเวน การเฝ้าระวังสังเกตการณ์บนที่สูงด้วย นำไปสู่การดับเร็ว จะทำให้ไฟไม่ลุกลามเป็นวงกว้าง และค่าฝุ่นก็จะไม่เพิ่มสูงขึ้น ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนที่อยู่ในพื้นที่และเป็นผู้ปฏิบัติหน้างานจริงนั้นทำงานอย่างขันแข็งตลอด 24 ชั่วโมง ทุ่มเท เสียสละตัวเอง เพื่อปกป้องผืนป่า ช่วยกันดับไฟอย่างเต็มที่ และกำลังพลทุกนายยังมีกำลังใจที่ดี
ด้าน นายเพิ่มศักดิ์ ศรีสวัสดิ์ นายอำเภอดอยเต่า ก็ได้เปิดเผยถึงสถานการในพื้นที่ว่า อำเภอดอยเต่าจะต้องใช้เวลาในการต่อสู้กับการเกิดไฟป่านานถึง 4 เดือน ถือเป็นความยากและท้าทายอีกอย่างหนึ่ง โดยอำเภอดอยเต่ามีการบูรณาการการทำงานร่วมกันทุกภาคส่วนทั้งกองกำลังของฝ่ายปกครอง สิงห์ไฟ อาสาดับไฟกรมป่าไม้ กองกำลังกองทัพ เข้ามาเสริมกำลังด้วย สำหรับความยากในการดับไฟที่อำเภอดอยเต่า คือเป็นอำเภอที่มีพื้นที่ป่าค่อนข้างมากและการเข้าถึงพื้นที่ที่เกิดไฟในแต่ละครั้งนั้นเป็นไปด้วยความยากลำบาก ต้องนั่งรถและเดินเท้าต่ออีกหลายกิโลเมตร บางจุดดูเหมือนจะอยู่ใกล้แต่พอเข้าไปในพื้นที่จริงนั้นก็อาจใช้เวลานานหลายชั่วโมง จึงมีการจัดชุดออกลาดตระเวนทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จุดตรวจจุดกัด จุดสังเกตการบนที่สูง หน่วยซุ่มในป่าคอยดูผู้ที่จะมาลักลอบเผาป่า ตลอด 24 ชั่วโมง ควบคู่กับการรับแจ้งจุดความร้อนจากดาวเทียม เพื่อจะได้ทราบจุดที่เกิดไฟไหม้และเข้าไปดับให้ได้โดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ นายสุข ปู่ไข่ อาสาดับไฟป่า ได้เล่าว่า ตนได้อยู่ปฏิบัติงานมาตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์แล้ว และเป็นคนที่อาสาเข้ามาเป็นทีมดับไฟป่าเอง ยอมรับว่าการเข้าพื้นที่แต่ละครั้งเป็นไปด้วยความยากลำบากจริง บางครั้งต้องกินนอนอยู่ในป่าเพราะว่าการเดินทางเข้าพื้นที่ต้องใช้เวลานาน แต่ตนก็ภูมิใจในหน้าที่ที่รับผิดชอบอยู่ในขณะนี้ ไม่ย่อท้อต่อการทำงาน อีกทั้งมีกำลังใจและได้รับความเข้าใจจากทางครอบครัวเป็นอย่างดีซึ่งครอบครัวก็เป็นอีกหนึ่งกำลังที่คอยอยู่เบื้องหลังการทำงาน ก่อนออกบ้านทุกครั้งภรรยาก็มักจะห่อข้าวให้มากินระหว่างวันอยู่เสมอ อย่างไรก็ตามขอฝากไปยังคนที่จุดไฟในป่าว่าขอให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าว เพราะหากมีคนจุดไฟเพียง 1 คน อีกหลายชีวิตต้องคอยมาดับอย่างเหน็ดเหนื่อย
ส่งศักดิ์ พรมเอี่ยม ชัยณรงค์ อนันทปัญญสุทธิ์ ศูนย์ข่าวภาคเหนือรายงาน
แสดงความคิดเห็น