วันนี้(19 พค.68)ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณจุดที่หม้อแปลงไฟฟ้าส่องสว่าง โดนขโมยลักตัดหม้อแปลงไฟฟ้าขนาด 30 KVA ชิงเกิ้ลเฟส บนทางหลวงแผ่นดิน 228 (หนองบัวลำภู-ชุมแพ) ร่วมกับ นายชิตชัย ชิณบุตร ผช.นายช่างไฟฟ้าแขวงทางหลวงบัวลำภู ที่ได้รับมอบหมายจาก นายวีระพงษ์ พันธุชาติ นายช่างไฟฟ้าแขวงทางหลวงหนองบัวลำภู ถึง 2 จุดจุดแรกคือ ทางหลวงหมายเลข 228 ศรีบุญเรือง-วังหมื่น กม.75+215 สะพานห้วยนากุง ต.บ้านพร้าว อ.เมืองหนองบัวลำภู และ
จุดที่ 2 ทางหลวงหมายเลข 228 ศรีบุญเรือง-วังหมื่น กม.63+700 ก่อนถึงบ้านดินทรายอ่อน ต.หัวนา อ.เมืองหนองบัวลำภู จ.หนองบัวลำภู ซึ่งทั้ง 2 จุดที่ขโมยลอบลักตัดหม้อแปลงไฟฟ้าส่องสว่างตรงเกาะกลางของถนนทางหลวงหหมายเลข 228 จะมีเสาไฟฟ้าส่องสว่าง จุดละ 40 ต้น รวม 80 ต้น ซึ่งแต่ละจุดจะอยู่ห่างจากชุมชนและสถานที่ราชการประมาณ 800-1,000 เมตร โดยทั้ง 2 จุดผู้อำนวยการแขวงทางหลวงหนองบัวลำภู สั่งการให้หมวดการทางโนนสังเข้า แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองหนองบัวลำภู เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2568
โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2568 นายบรรเจิด พรสินชัย นายช่างโยธาชำนาญงาน หัวหน้าหมวดทางหลวงหนองนาคำ อำเภอหนองนาคำ จังหวัดขอนแก่น ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีบุญเรือง สืบเนื่องจาก ทล.สาย 228 ตอนห้วยสายหนัง-ศรีบุญเรือง ที่ กม.47+950 RT.กม.48 บ้านหนองบัวน้อย ต.ศรีบุญเรือง อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู ถนนเชื่อมไปยังอำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ถูกโจรกรรมส่งผลให้ไฟส่องแสงสว่างดับ เป็นเหตุให้ประชาชนที่สัญจรไป - มาบริเวณดังกล่าวมืดมิด เกิดความไม่สะดวกปลอดภัย และเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน อีกทั้ง ทำให้เกิดการสูญเสียงบประมาณของแผ่นดินอีกด้วย บริเวณเสาไฟฟ้าส่องสว่าง จำนวน 10 ต้นมืดดับ ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
โดยวันนี้(19 พค.68)นายชิตชัย ชิณบุตร ผช.นายช่างไฟฟ้าแขวงทางหลวงบัวลำภู ได้นำผู้สื่อข่าวชี้จุดที่หม้อแปลงไฟฟ้าทั้ง 2 จุดถูกลักขโมย ถึงลักษณะและพฤติกรรมของมิจฉาชีพที่ได้ตัดหม้อแปลงไฟฟ้า โดยไม่ได้ทิ้งร่องรอยของหลักฐานที่พอจะสืบทราบลักษณะของแก๊งชุดนี้ ซึ่งหม้อแปลงของไฟฟ้าจะอยู่สูงห่างจากพื้นดินประมาณ 5-8 เมตรโดยไม่ได้นำเอามิเตอร์ของไฟฟ้าไปด้วย จะเอาเพียงหม้อแปลงไฟฟ้าส่องสว่างลงมา และอาจจะชำแหละหรือยกไปทั้งหม้อโดยคาดว่าแก๊งมิจฉาชีพกลุ่มนี้ น่าจะอาศัยช่วงเวลา 01.00-02.00 น.ของวันหยุดราชการก่อเหตุดังกล่าว เพราะแต่ละจุดไม่มีกล้องวงจรปิดที่ชี้ชัดไปยังจุดของหม้อแปลงบนเสาไฟฟ้าประกอบกับอยู่ห่างจากชุมชนและยามค่ำคืน
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้เฝ้าติดตามข่าวหม้อแปลงไฟฟ้าส่องสว่างของแขวงทางหลวงหนองบัวลำภู ไม่ว่าจะเป็นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 210 (อุดรธานี-เลย) มีขโมยลักหม้อแปลงไฟฟ้าส่องสว่างบนทางหลวงแผ่นดินดังกล่าว ไปแล้ว 5 จุด เริ่มตั้งแต่รอยต่อบริเวณเขื่อนห้วยหลวง(จังหวัดอุดรธานี) มาที่บริเวณบ้านโนนทัน และ บ้านห้วยเดื่อ ต.โนนทัน อ.เมืองหนองบัวลำภู จุดบริเวณสถานีไฟป่าหนองบัวลำภู ต.หนองบัว อ.เมืองหนองบัวลำภู และจุดที่อำเภอนาวัง จ.หนองบัวลำภู ก่อนหน้านี้ หากรวมๆหม้อแปลงไฟฟ้าที่มิจฉาชีพลักหม้อแปลงไฟบริเวณทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 228 จำนวน 3 จุด รวมทั้งสิ้น 8 จุด/หม้อ รวมๆมูลค่าความเสียหายร่วม 2,000,000 ล้านบาท
มาจนถึงวันนี้ยังไร้ร่องรอยและเบาะแสของคนชั่วที่สร้างวีรกรรม อีกทั้งผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นแก๊งมิจฉาชีพ หรือเป็นผู้มีความชำนาญเรื่องไฟฟ้าเป็นอย่างดี และคงก่อเหตุในยามค่ำคืน เรื่องนี้คงชี้ประสิทธิภาพของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.หนองบัวลำภู ชุดสืบสวน สภ.เมืองหนองบัวลำภู และ สภ.ศรีบุญเรือง หาข่าวเพื่อนำแก๊งมิจฉาชีพนี้มาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

ทั้งนี้ การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดฐานทำลายหรือทำให้เสียหายแก่ทางหลวง ตามมาตรา 43 และต้องระวางโทษ ตามมาตรา 72 จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ.2535 แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติทางหลวง (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2549 นอกจากนั้น ยังเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ ตามมาตรา 335 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1ปี ถึง 5ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 ถึง 100,000 บาท ตามประมวลกฎหมายอาญา และผู้กระทำผิดต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนทรัพย์สินที่เสียหายและสูญหายนั้นด้วย 

แขวงทางหลวงหนองบัวลำภู  จึงขอความร่วมมือให้ประชาชนผู้อาศัยอยู่บริเวณสองข้าง ทางหลวง บริเวณใกล้เคียง และผู้ใช้ทาง โปรดช่วยกันสอดส่องดูแล หากพบเห็นผู้กระทำผิด หรือสงสัยจะกระทำผิด สามารถแจ้งได้ที่ช่องทาง :สายด่วนกรมทางหลวง 1586 ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง แขวงทางหลวงหนองบัวลำภู จึงขอให้ท่านประชาสัมพันธ์ให้ทราบทั่วกัน และขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้

ภาพประกอบ จุดที่1 ทางหลวงหมายเลข 228 ศรีบุญเรือง-วังหมื่น กม.75+215 สะพานห้วยนากุง ต.บ้านพร้าว อ.เมืองหนองบัวลำภู

ภาพประกอบ จุดที่ 2 จุดที่ 2 ทางหลวงหมายเลข 228 ศรีบุญเรือง-วังหมื่น กม.63+700 ก่อนถึงบ้านดินทรายอ่อน ต.หัวนา อ.เมืองหนองบัวลำภู จ.หนองบัวลำภู

ซึ่งทั้ง 2 จุด หมวดการทางโนนสัง เข้าแจ้งความกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองหนองบัวลำภู เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2568

จุดที่ 3 ทล.สาย 228 ตอนห้วยสายหนัง-ศรีบุญเรือง ที่ กม.47+950 RT.กม.48 บ้านหนองบัวน้อย ต.ศรีบุญเรือง อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู ถนนเชื่อมไปยังอำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น หมวดการทางหนองนาคำเข้าแจ้งความกับ จนท.ตำรวจ สภ.ศรีบุญเรือง เมื่อวันที่ 16 พค.68

ส่วนจุดที่ 1-5 ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 210 (อุดรธานี- เลย)หายไปก่อนหน้านี้แล้ว

ภาพประกอบ DSC 00239 DSC 00240 ลักษณะของหม้อแปลงไฟฟ้าที่ถูกขโมย บางส่วนยังไม่ถูกลักเนื่องจากอยู่ตรงหน้าร้านค้าในเขตทางหลวง

ภาพประกอบ จุดที่ 1 เริ่ม 001- 009

ภาพประกอบจุดที่ 2 เริ่มจาก 010 – 020

ภาพประกอบจุดที่ 3 เริ่มจาก 021-027






















 สุภัชรกานต์  แก้วสิงห์ หนองบัวลำภู

แสดงความคิดเห็น