พ.ต.อ.เอกพงษ์ พลมณี ผกก.สภ.เมืองสุรินทร์  สอบปากคำนายแฟร์ หรือ “เสือ” บุญรอด อายุ 38 ปี  ผู้ต้องหาในคดีงัดเซฟบ้านผู้เสียหาย  เลขที่ 161 หมู่ที่ 11  ตำบลนอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์   ก่อนงัดประตูหลังบ้านเข้าไปงัดตู้เซฟกวาดทรัพย์สินเป็นทองรูปพรรณไปหลายรายการมูลค่าหลายแสนบาท

โดยผู้เสียหายได้แจ้งความกับ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุรินทร์  เอาไว้เมื่อวันที่  22 เมษายน  

ซึ่ง พ.ต.ท.วัชรพงศ์ พวงบุตร รอง ผกก.สส.สภ.เมืองสุรินทร์   และ พ.ต.ท.สทรัตน์ แก่นดี สว.สส.ฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองสุรินทร์

ได้ติดตามแกะรอยจนรู้ตัวคนร้าย จึงเข้าตรวจค้นบริเวณหน้าบ้านเลขที่ 353 บ้านหลักวอ ม.11 ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์    พบนายแฟร์ หรือเสือ    เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนถึงกับหน้าถอดสี    ตำรวจจึงได้แสดงตัวเข้าตรวจค้นบ้านต้องสงสัยพบของกลาง จำนวน 3 รายการ คือ .สร้อยคอทองคำ หนัก 1 บาท  จำนวน  1  เส้น     กระเป๋าสะพายข้าง ยี่ห้อ Qunuoda จำนวน  1  ใบ   และ พระปิดตา หลวงปู่สาม (เมตตา) จำนวน  1  องค์

ก่อนนำตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนรัยสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุเข้าไปงัดบ้าน ตู้เซฟของผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านกันจริง  ซึ่งวันเกิดเหตุตนเองซึ่งมีอาชีพขายของเก่า  ได้ออกไปหาของป่าท้ายบ้าน  เห็นบ้านของผู้เสียหาย ไม่มีใครอยู่ จึงเข้ามาทางหลังบ้าน บิดลูกบิดประตูได้ จึงเข้าไป ก่อนใช้เครื่องมือช่างที่ตนเองเคยเป็นช่างมาซึ่งติดตัวมาด้วย ทำการงัดหาสิ่งของมีค่าจนไปเจอตู้เซฟ ก่อนใช้เวลาถึง2ชั่วโมง งัดเซฟได้สำเร็จ

พบว่ามีทรัพย์สินมีค่ามากมาย  ซึ่งตามบันทึกประจำวันของผู้เสียหายที่มาแจ้งความ  ประด้วย  ทั้งสร้อยทอง  4 เส้นรวม 4 บาท แหวนทอง 4 วง  แหวนประดับพลอย  17 วง จี้เพชร 1 อัน   กำไลทองคำฝังเพชร 1 วง สร้อยข้อมือทองคำ  1 เส้น  พลอย  20  เม็ด  งาช้างกรอบทอง 3 องค์   เหรียญกษาปณ์สะสม  200 เหรียญ รวมมูลค่าทรัพย์สินกว่า  1.5 ล้านบาท   

ก่อนนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ  แต่นายแฟร์  ยังแบ่งรับแบ่งสู้ ให้การวกวนถึงทรัพย์สินที่ได้ไป  นำทองรูปพรรณบางส่วนไปปล่อยขายให้กับกลุ่มคนในเขตพื้นที่  อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 22 เมษายน ได้เงินมา 129,940 บาท   และวันที่ 10 พฤษภาคม นำทองรูปพรรณไปขายให้คนกลุ่มเดิม ซึ่งเป็นร้านทองในจังหวัดนครพนม  อีก  ในราคา 106,500อ บาท  ซึ่งตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ เตรียมเชื่อมไทม์ไลน์ข้อมูลโทรศัพท์ที่ต้องกู้มา ติดตามการคุยแชทและการขายทรัพย์สินที่โจรกรรมมา ให้แก่กลุ่มใครบ้าง เพราะเชื่อว่าเงินไม่น่าจะหมดเร็วขนาดนี้ เพราะเปรียบเทียบของกลางที่ยึดมาได้เพียง 3 รายการเท่านั้น

 โดยตั้งข้อกล่าวหา   “ลักทรัพย์ในเคหะสถานโดยทำลายสิ่งกีดกั้นหรือคุ้มครองทรัพย์นั้นหรือรับของโจร” รวมถึงผู้ที่รับของโจรด้วย ก่อนนำตัว พร้อมของกลาง ส่ง พงส.สภ.เมืองสุรินทร์





อัศววัฒน์ พัฒน์ทองกนก News24 จ.สุรินทร์   รายงาน





























แสดงความคิดเห็น