จากกรณี นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” พร้อมด้วย พ.ต.อ.บุญย์พัชร์ ปิยะบุญสิทธิ ผกก.(สอบสวน)กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.ภ.7 รรท.ผกก.สภ.หนองปรือ เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)จังหวัดกาญจนบุรี และผู้นำท้องถิ่น ได้เดินทางไปช่วยเหลือ ด.ช.เอ อายุ 5 ขวบ และ ด.ญ.บี อายุ 4 ขวบ ที่ถูกแม้แท้ๆทำร้ายได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสเนื่องจากผู้เป็นแม่เสพสารเสพติดจนหลอนและมีอาการคุ้มคลั่งทำร้ายร่างกายลูกทั้งสอง สำหรับบ้านหลังเกิดเหตุอยู่ในท้องที่ ต.หนองปรือ อ.หนองปรือ จ.กาญจนบุรี ตามที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น  



วันนี้ 13 พ.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางจันทร์จิรา พัฒนศิริ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.)จังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ในวันดังกล่าวตนได้มอบหมายให้ นางสาวพีรภาว์ ลิมปนวัสส์ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ นายวรรธนัย ทับทิมศรี พนักงานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก และนางสาวดวงใจ อาจคงหาญ เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ปฏิบัติการ เพื่อป้องกันการกระทำความรุนแรงในครอบครัวจังหวัดกาญจนบุรี ร่วมลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาความรุนแรงในครอบครัว กรณีประชาชนร้องขอให้คุณ กัน จอมพลัง ช่วยเหลือเด็ก 2 คน ที่ถูกมารดาแท้ๆ ทำร้ายร่างกายในพื้นที่ ต.หนองปรือ อ.หนองปรือ จ.กาญจนบุรี



จากการตรวจสอบพบบ้านหลังดังกล่าวมีสมาชิกในครอบครัวอาศัยอยู่ด้วยกัน 3 คน ประกอบด้วยมารดาและบุตร 2 คน ประกอบด้วย 1.นางสาวแดง (นามสมมุติ) อายุ 27 ปี มารดาซึ่งมีพฤติกรรมติดยาเสพติด (ยาบ้า) มาเป็นระยะเวลา 5 ปี 2. ด.ช.เอ บุตรชาย อายุ 5 ขวบ ยังไม่ได้รับการศึกษา และ 3.ด.ญ.บี บุตรสาว อายุ 4 ขวบ ยังไม่ได้รับการศึกษาเช่นกันโดย ด.ช.เอ นั้น ถูกแม่ทำร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้นขาด้านซ้ายหักและกระดูกเกยซ้อนกัน จนบวมใหญ่ สาเหตุเกิดจากมารดาเตะอย่างแรงและกระชากลากเดินขึ้นเขาเนื่องจากอาการหลอนยาเสพติด แพทย์ลงความเห็นว่าบาดแผลถูกกระทำมาเป็นระยะเวลานานกว่า 6 สัปดาห์ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งเข้ารับการรักษาต่อด้วยการผ่าตัดที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา 

สำหรับ ด.ญ.บี ได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้า โดยการถูกของมีคมเป็นแผลขนาด 1.5 นิ้ว ความลึกของแผล 1 เซนติเมตร แพทย์ลงความเห็นว่า สภาพบาดแผลเกิดขึ้นมานานกว่า 4 สัปดาห์ ตามตัวมีบาดแผลเกิดจากแมลงกัด พร้อมส่งเข้ารับการรักษาต่อยังโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา เพื่อรักษาบาดแผลบริเวณใบหน้า

จากการสอบถามข้อเท็จจริง ทราบว่าแม่ของเด็กทั้งสองคนมีพฤติกรรมเสพยาเสพติดเป็นประจำทุกวัน และทุกครั้งที่เสพยาเสพติดมักจะตีลูก สาเหตุเพราะลูกมีอาการหิว จึงจะร้องขอกินข้าว ซึ่งแม่เองไม่มีอะไรให้ลูกกิน เมื่อเด็กร้องขอก็จะมีอารมย์โกรธแล้วทำร้ายร่างกายด้วยการตบตี เตะต่อย จนเกิดบาดแผลกับลูกทั้ง 2 คน และเมื่อแม่มีอาการหลอนจากการเสพยาเสพติด ก็จะพาลูกทั้ง 2 คน เดินขึ้นเขาลงเขาตามอาการหลอน จนเพื่อนบ้านอดทนดูพฤติกรรมเช่นนี้ไม่ได้ จึงแจ้งผู้ใหญ่บ้านและฝ่ายปกครองเข้าให้การช่วยเหลือ เมื่อเจ้าหน้าที่นำแม่ของเด็กเข้ารับการรักษาก็ไม่เกิน 1 วัน ก็กลับมาบ้าน 

นางจันทร์จิรา พัฒนศิริ พม.จังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า สำหรับการให้ความช่วยเหลือ ด.ช.เอ และ ด.ญ.บี สองพี่น้องนั้น ทางสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกาญจนบุรี ได้ให้การช่วยเหลือตามสิทธิ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. 2550 และ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 พร้อมช่วยอำนวยความสะดวกช่วยเหลือการสงเคราะห์ในการติดตามเด็กเข้ารับการรักษาต่อที่โรงพยาบาลสถานพระบารมี และการสงเคราะห์ตามภารกิจกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

หลังจากเด็กสองมีอาการดีขึ้นแล้ว จะนำตัวไปอยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดกาญจนบุรี และได้ดำเนินการให้การช่วยเหลือดำเนินคดีกับแม่ของเด็ก พร้อมรับเด็กทั้ง 2 คน เข้าคุ้มครองสวัสดิภาพยังบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดกาญจนบุรี โดยแม่ของเด็กจะถูกดำเนินคดี ฐานความผิดเกี่ยวกับการเสพยาเสพติด ซึ่งจะต้องนำตัวเข้าไปรับการบำบัด และฐานความผิดทำร้ายร่างกายลูกทั้ง 2 คน จนได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ต้องรอความเห็นของแพทย์อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ จ.กาญจนบุรี

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอหนองปรือ ได้ให้ความช่วยเหลืออำนวยความสะดวกในการขอเอกสารทางทะเบียนราษฎร์ของเด็ก พร้อมวางแผนในติดตามให้การช่วยเหลือด้านอื่นๆ ต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา กัน จอมพลัง ได้นำภาพขณะลงพื้นที่ช่วยเหลือ ด.ช.เอ และ ด.ญ.บี สองพี่น้องมาโพสต์ลงในเฟสบุ๊ก “กัน จอมพลัง ช่วยสู้” พร้อมระบุข้อความว่า “อย่าคิดเป็นแม่ เป็นคนให้ได้ก่อน!! หลังแม่ฟาดน้องจนขาหักจนน้องต้องไถตัวไปกับพื้นนับเดือน อีกคนกะโหลกเปิดแม่ไม่พาไปรักษา ยังไม่ให้น้องอาบน้ำมา 3 เดือนแล้วแม่ดูด ย พ่นใส่หน้าลูก อุ้มลูกดูด ย จนลูกมองเป็นปกติ เด็ก 3 ขวบชวนเพื่อนไปดูด ย แล้วทำท่าตามแม่ มีคนใจบุญสงสารแม่กับน้องเอาของมาบริจาคให้แม่เป็นประจำ ต่อหน้าแม่ก็จะทำตัวน่าสงสาร แต่หลังจากคนใจบุญกลับแม่จะเอาของที่ได้ไปเผาทิ้งเหลือเพียงตังไว้ดูด ย ที่บ้านไม่มีไฟมีแต่น้ำแม่ก็จะใช้น้ำเปล่าล้างขวดนมกับจานชามที่เน่าไม่ใช้น้ำยาล้างใดๆ ตัวเองน็อคยาก็จะปล่อยให้ลูกเดินลำพัง การเดินทาง 3 ชม มากาญจนบุรีครั้งนี้ของผม มันคุ้มที่สุด ที่ได้พาน้องๆออกจากนรกที่อดทนมานาน” หลังจาก กัน จอมพลัง โพสต์รูปภาพและข้อความดังกล่าวออกไปสู่สาธารณะ มีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นกันอย่างล้นหลาม 





   ///////////////////////////////////////////////////////////

ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี 

/ ปรีชา ไหลวารินทร์ 

แสดงความคิดเห็น