ต่อมา.ส.เอได้เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท. ฐิติปกรณ์ คุ้มปานอินทร์ สารวัตรสอบสวนให้ดำเนินคดีกับป้าไก่ ซึ่งนางเอยืนยันว่าป้าไก่ทั้งจิกผม ฉุดกระชาก และตบตนหลายครั้ง ยืนยันจะดำเนินคดีป้าไก่แม้ค้าขายมะนาวรายนี้ให้ถึงที่สุด ก่อนที่ตำรวจจะให้ไปหาหมอเพื่อตรวจร่างกาย และนัดทั้งสองฝ่ายมาพูดคุยกันอีกครั้ง
ล่าสุดวันนี้14. 00 น.2มิ.ย. 67ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ภายในชุมชนแออัดในซอยแห่งหนึ่งใกล้กับตลาดท่าน้ำนนท์ พบป้าไก่อยู่ภายในบ้านพร้อมกับสุนัข ไทยพันธ์ทาวตัวใหญ่และสุนัขพันธ์เล็กอีก 4ตัว พร้อมกองอุจจาระจำนวนมากที่เลี้ยงไว้ ส่งกลิ่นเหม็นไปทั้งห้องเช่าที่เช่าไว้วันละ 100บาท
ป้าไก่กล่าวทั้งน้ำตาถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นพร้อมทั้งยกมือไหว้ขอโทางสังคม และผู้เสียหายพร้อมทั้งยอมรับผิดกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น เนื่องากวันเกิดเหตุตนเองซึ่งก็นอนพักผ่อนไม่พออีกทั้งรีบๆเมื่อทอนเงินไปแล้วแต่หาแบ้งค์500ไม่เจอจึงคิดว่าคนซื้อยังคงไม่ได้ให้
เมื่อหาไม่เจอจึงทำให้ตนเองซึ่งวันนั้นต้องรวบรวมเงินให้ได้2000เพื่อโอนคืนให้กับร้านขายมะนวมที่ตนเซ็นเชื่อไปเอามาขาย เมื่อหาเงินแบ้งค์ 500ไม่เจอ จึงทวงถามอยากได้เงินทอนจำนวน 450ของตนคืน เมื่อน้องผช.พยาบาลไม่คืนจงทำให้ตนโมโหก่อนลงมือตบไปจริงๆ แต่ยืนยัยตบไปเพียงครั้งเดียว วันนี้ถ้าผู้เสียหายจะยืนยันดำเนินคดีกับตนๆก็ยอและพร้อมรับกับการกระทำที่ตนทำไป แต่ขอให้เอาสุนัขไปด้วย หรือใครจะมาเอ่ไปก็ช่วยดำเนินการให้ด้วย ตนแก่แล้ว อยู่คนเดียว ฐานะยากจนไม่มีปัญญาจะชดใช้หรือจ่ายค่าเสียหาย จะติดคุกก็คงต้องยอม ป้าไก่กล่าวทั้งน้ำตาด้านนางโก๊ะอายุ60ปี แม่ค้าหมูปิ้งหน้าตลาดซึ่งเป็นเพื่อนสนิทป้าไก่กล่าวว่า ตนเองยืนันป้าไก่ไม่ได้จิกผม แต่ฉุดและดึงแขนผช.พยาบาลและตบไป 1ครั้งจริง ตอนนี้รู้สึกสงสารเพื่อนเพราะไม่เงินแม้แต่จะไแเซ็นเชื่อซื้อมะนาวมาขายได้เลยตั้งแต่เกิดเรื่อง
แสดงความคิดเห็น